ภายในเวลา 2 วัน ธุรกิจในเครือ “สิงห์” ออกมาเผยถึงแผนลุยตลาดต่างประเทศ ทั้งในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวธุรกิจในเครือ “สิงห์” ของตระกูล “ภิรมย์ภักดี” ซึ่งขณะนี้มีแผนลุยธุรกิจในต่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะธุรกิจ “โรงแรม” และ “ร้านอาหาร” แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศ จะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
เริ่มที่ธุรกิจโรงแรมภายใต้การดูแลของ บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ SHR บริษัทประกอบธุรกิจโรงแรมของกลุ่มสิงห์ เอสเตท ซึ่งเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า บริษัทฯ ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 560 ล้านบาท ซื้อหุ้นทั้งหมดของโรงแรม 26 แห่ง ในสหราชอาณาจักร ห้องพักรวม 2,886 ห้อง ภายใต้แฟรนไชส์โรงแรมที่เป็นที่รู้จักทั่วโลกในแบรนด์ Mercure เพื่อรองรับการฟื้นตัวธุรกิจท่องเที่ยวในยุโรป
นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า คุยเบอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) เผยว่า การลงทุนครั้งนี้มีความสมเหตุสมผลหลายประการคือ ประการแรก เป็นการเลือกลงทุนในทรัพย์สินที่รู้จักเป็นอย่างดี มีความเข้าใจตลาดและความต้องการของผู้บริโภค
จุดเด่นของพอร์ตโฟลิโอนี้คือการกระจายตัวของโรงแรมต่าง ๆ ตามเมืองเศรษฐกิจและเมืองท่องเที่ยวในสหราชอาณาจักร ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวจากในประเทศและในทวีปยุโรปกว่าร้อยละ 90 ประการที่ 2 บริษัทฯ เล็งเห็นศักยภาพในการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศ และระหว่างภูมิภาคของสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นประเทศที่มีความพร้อมในการกระจายวัคซีนให้กับประชากรเร็วที่สุดแห่งหนึ่งในโลกผนวกกับแนวโน้มเศรษฐกิจในสหราชอาณาจักรและยุโรปที่ปรับอาจตัวดีขึ้นภายหลัง Brexit มีความชัดเจน
และประการสุดท้ายคือ การลงทุนนี้เป็นการเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในทรัพย์สิน ที่ช่วยสร้างสมดุลของรายได้และกำไรให้แก่บริษัทฯ และลดผลกระทบด้านฤดูกาล (seasonal effect) เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯ มีเสถียรภาพในทุกไตรมาสจากอานิสงส์ของฤดูกาลท่องเที่ยว (high season) ของตลาดยุโรปในระหว่างไตรมาสที่ 2 และ 3 ซึ่งสมดุลกับทรัพย์สินของบริษัทส่วนใหญ่ในประเทศไทยและสาธารณรัฐมัลดีฟส์ที่มีฤดูกาลท่องเที่ยวโดยทั่วไปในไตรมาส 1 และไตรมาส 4
นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ SHR จากการรับรู้รายได้ภายหลังเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในทรัพย์สินกลุ่มนี้ โดยบริษัทฯ คาดหวังว่าจะสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตขึ้นปีละ 2 – 3 พันล้านบาท หากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาเป็นปกติ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองเห็นโอกาสในการปรับปรุงประสิทธิภาพของพอร์ทโฟลิโอนี้ให้มีความเหมาะสมและต่อยอดสินทรัพย์ที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรให้สูงขึ้น แม้จะมีความท้าทายอย่างมากมายในการขับเคลื่อนธุรกิจในปี 2564 นี้ แต่ SHR ยังคงเดินหน้าในการแสวงหาโอกาสในการขยายการลงทุนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ผสานกับการปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานโรงแรมที่ SHR ดำเนินการอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารต้นทุนผ่าน Hotel Operating Model และการเพิ่มสัดส่วนโรงแรมที่บริษัทฯบริหารจัดการเอง รวมถึงการสร้างแบรนด์ของบริษัทฯ เพื่อธุรกิจรับบริหารจัดการโรงแรมในอนาคต
“บริษัทฯ ได้ใช้พลังงานและทรัพยากรที่มีอยู่ ทุ่มเทกับการสร้างธุรกิจหรือหาช่องทางการทำธุรกิจเพื่อรองรับวิถีการท่องเที่ยวแบบใหม่ ผนวกกับพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ทั้งในเชิงบุคลากรที่มีคุณภาพ ทำเลที่ตั้งของโรงแรมของบริษัทฯ ที่เป็นสุดยอดจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยว โครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าด้วยความเชี่ยวชาญของเรา เราจะผ่านช่วงเวลาท้าทายนี้ และเดินหน้าสร้างความสำเร็จบนวิถีการท่องเที่ยวแบบใหม่ได้” นายเดิร์กกล่าว
คล้อยหลังเพียง 2 วัน ธุรกิจร้านอาหารในเครือสิงห์อย่าง “ฟู้ด แฟคเตอร์” ประกาศต่อยอดความสำเร็จร้าน “EST.33” ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศ ประเดิมปักธงไมโครบริวเวอรี่สาขาแรกที่โครงการมิกซ์ยูส Brickell City Centre ไมอามี รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ภายใต้คอนเซ็ปต์ Taste of Life หรือรสชาติแห่งชีวิต บ่งบอกเอกลักษณ์ ตัวตนความเป็นไทยของร้านผ่านเมนูอาหารสไตล์เอเชียน และเครื่องดื่มเบียร์ไทย สอดแทรกวัฒนธรรม ประเพณีต่าง ๆ เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย
โดยได้นำเบียร์ที่ได้รับความนิยมจากร้าน “EST.33” ในประเทศไทย ไปจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็น Legend Lager, One and Only Kopper, Aromatic Snowy, 33 Pale Ale และมีเบียร์สิงห์แบบดราฟต์ ภายในร้านจะได้เห็นกระบวนการผลิตและความสดของคราฟท์เบียร์ตั้งอยู่ด้านในให้ได้นั่งชมการผลิตเบียร์อย่างใกล้ชิด
แม้สเกลของ 2 ธุรกิจภายใต้องคาพยพของ “สิงห์” จะค่อนข้างแตกต่างกัน แต่ภาพการลุยธุรกิจนอกประเทศ ที่เผยออกมาในช่วง 2 วัน สะท้อนให้เห็นถึงเงินทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมต่อยอดโอกาสใหม่ ๆ เสมอ แม้ในช่วงที่ธุรกิจเกือบทั่วโลกพยายามรักษาสภาพคล่องให้ได้มากที่สุด