รพ.วรรณสิริ ทุ่ม 1,000 ล้าน เปิดตัวฮับศัลยกรรมเทียบชั้นเกาหลี

รพ.วรรณศิริ

รพ.วรรณสิริ ทุ่มงบ 1,000 ล้านบาท เปิดตัวฮับศัลยกรรมเทียบชั้นเกาหลี ลุยตลาดความงาม 30,000 ล้าน ชูจุดเด่นศัลยแพทย์เฉพาะทาง รักษาแบบองค์รวม-เทคโนโลยีขั้นสูง เจาะกลุ่มไฮเอนในประเทศและต่างประเทศ ดีเดย์ พ.ค. 64 พร้อมตั้งเป้าปี 65 ยอดขายรวมแตะพันล้าน

วันที่ 19 มีนาคม 2564 นายแพทย์ศรัณย์ วรรณจำรัส กรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการด้านการแพทย์โรงพยาบาลวรรณสิริ เปิดเผยว่า การเปิดตัวโรงพยาบาลความงามครบวงจรในครั้งนี้ เป็นการยกระดับมาตรการวงการศัลยกรรมความงามของประเทศไทย เพื่อเป็นผู้นำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยเน้นการรักษาแบบองค์รวม ซึ่งบูรณาการศัลยแพทย์เฉพาะทางในหลายสาขา ช่วยศัลยกรรมแบบครบวงจร พร้อมนำเทคโนโลยีการแพทย์เข้าใช้ เช่น ระบบ 3D สร้างภาพจำลองสามมิติละเอียดสูง ภายใน 15 นาที เพื่อคำนวณลักษณะรูปหน้าหลังผ่าตัดประกอบการตัดสินใจ, การใช้เทคโนโลยีช่วยให้แผลเล็กและฟื้นตัวเร็ว

รวมไปถึงการออกแบบห้องผ่าตัดคลีนรูม (Clean Room) ปลอดเชื้อขั้นสูง เพื่อความปลอดภัยในระดับมาตรฐานสากล

 ทั้งนี้ นายแพทย์ศรัณย์ ระบุว่า การก่อตั้ง รพ.ในครั้งนี้ ได้ดึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมถือหุ้นเป็นพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจด้วยกัน โดย รพ.ตั้งอยู่ย่านพระราม 3 บนอาคาร 6 ชั้น มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 5,700 ตร.ม. รองรับการรักษาได้ 30 เตียง ใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้าน โดยตั้งใจเป็นฮับความงามเทียบชั้นประเทศเกาหลี โดยเน้นการเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยมทั้งในประเทศและต่างประเทศ

“รพ.วรรณสิริ ถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่ใช้โมเดล รพ.ศัลยกรรมความงามแบบเกาหลี ที่ดึงศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านการศัลยกรรมตกแต่งมาใช้โดยเฉพาะ ซึ่งเราเห็นโอกาสการพัฒนาไปสู่ระดับโลกได้ ทั้งจากศักยภาพของหมอไทย และดีมานด์ความต้องการการศักยกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก”

และข้อมูลจาก International Society of Aesthetic Plastic Surgeons พบว่า ในปี 62 มีการทำศัลยกรรมตกแต่งเพิ่มขึ้นราว 7.4% ส่วนในประเทศไทยพบว่า มีสัดส่วนผู้ทำศัลยกรรมที่มาจากต่างประเทศสูงถึง 33.2% แสดงให้เห็นถึงความนิยมและศักยภาพของเมดิคอลทัวร์ลิซึ่มในไทย

ด้านนายวนิก มโนมัยพิบูลย์ กล่าวเสริมว่า แม้ขณะนี้เมดิคอลทัวร์ลิซึ่มของไทยจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ทาง รพ.ได้ใช้โอกาสนี้ ปูทางเร่งจับมือกับเครือข่าย รพ.และเอเยนซี่ทั่วโลก เพื่อรอการกลับมาของกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่นี้

เราคาดว่าสัญญาณบวกจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด รวมไปถึงการผ่อนคลายมาตรการของทั่วโลกจะช่วยส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจะกลับมาบูมได้อีกครั้ง ซึ่งเชื่อได้ว่าอนาคตตลาดเมดิคอลทัวร์ลิซึ่มจะขยายตัว และจะกลายเป็นโอกาสสร้างการเติบโตของ รพ.วรรณสิริ”

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยวิเคราะห์ไว้ว่า หากผ่อนคลายข้อจำกัดของเมดิคอล ทัวร์ลิซึ่ม แม้กลุ่ม รพ.จะกลับสู่ภาวะปกติไม่เร็วนัก แต่เท่านั้นก็จะทำให้ รพ.เอกชน กลับมามีรายได้เพิ่มสูงสุดถึง 4% และมีชาวต่างชาติเข้ารักษามากถึง 1.77 ล้านคน ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 ปี มูลค่าตลาดรวมจะอยู่ที่ 65,000 ล้านบาท และภายใน 5 ปี อาจสูงถึง 100,000 ล้านบาท

ส่วนในช่วงนี้ที่สถานการณ์ยังไม่แน่นอนทาง รพ. จะหันมาเจาะกลุ่มลูกค้าในประเทศ และเมื่อเปิดประเทศจะเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีนและกลุ่มประเทศ CLMV เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งตลาดที่ใหญ่ มีดีมานด์ความต้องการสูง รวมไปถึงความสะดวกสบายด้านการเดินทางระหว่างประเทศ

สำหรับทิศทางการทำการตลาดจะใช้การทำตลาดรูปแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล โดยอาศัยบิ๊กดาต้า ผนวกกับการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติง เพื่อเข้าถึงกลุ่มทาร์เก็ตเฉพาะได้จำนวนมากในทีเดียว

อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเปิดให้บริการ รพ.วรรณสิริ อย่างเต็มรูปแบบในเดือนพฤษภาคมนี้ เนื่องจากช่วงดังกล่าวสถานการณ์ต่าง ๆ น่าจะคลี่คลาย ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น และกำลังซื้อผู้บริโภคจะกลับมา ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าภายในปี 65 ยอดขายรวมจะอยู่ที่ราว 1,000 ล้านบาท