หมอบุญ ไม่ถอย แจ้ง ตลท.เปิดเอกสารร่วมองค์กรรัฐนำเข้าวัคซีน mRNA

หมอบุญไม่ถอย

“ธนบุรีเฮลท์แคร์” ส่งหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติม ด่วนช่วงค่ำวันที่ 4 สิงหาคม พร้อมเปิดเอกสารลงนามหน่วยงานรัฐ ร่วมนำเข้าวัคซีน mRNA เผยยังไม่ถอดใจ นำเข้าวัคซีน 20 ล้านโดส

วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา สำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งให้บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) และนายบุญ วนาสิน ประธานกรรมการ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับการเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมเพื่อนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ รวมถึงการเสียเงินมัดจำจำนวน 500-600 ล้านบาท จากการผิดเงื่อนไขของสัญญา

ทั้งนี้ ในช่วงค่ำวันที่ 4 สิงหาคม 2564 ดร.สุวดี พันธุ์พานิช เลขานุการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือTHG ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง ชี้แจงการนำเข้าวัคซีนโควิด-19 เทคโนโลยี mRNA (เพิ่มเติม) แก้ไข

โดยระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) มีหนังสือลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 โดยใช้อำนาจมาตรา 58 (1) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ให้ผู้บริหาร บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ชี้แจงข้อมูลและนำส่งเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และเปิดเผยคำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ในหนังสือ

บริษัทขอชี้แจงว่า บริษัทได้รับหนังสือจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว โดยจะดำเนินการชี้แจงโดยละเอียดตาม กรอบระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับขอให้ข้อมูลเบื้องต้นดังนี้

บริษัท “ไม่ได้ให้ข้อมูลการทำสัญญาหรือจะทำสัญญาร่วมกับกระทรวงกลาโหม” ตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ทั้งนี้ บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐเพื่อร่วมกันนำเข้าวัคซีนจริง โดยจะเปิดเป็นเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้สำนักงาน ก.ล.ต.

2. บริษัทไม่ได้ใช้เงินสด เงินกู้ หรือทรัพย์สินของบริษัทในการวางมัดจำหรือค่าปรับมัดจำวัคซีน

3. วัคซีนจำนวน 20 ล้านโดส ที่ได้มีการเจรจากับผู้แทนจำหน่ายแล้วนั้น ยังไม่มีการลงนามสั่งซื้อจากหน่วยงานที่มีหน้าที่ตามระเบียบของรัฐ แต่บริษัทยังไม่ละทิ้งความพยายาม โดยจำนวนวัคซีน และระยะเวลาการนำเข้าวัคซีนไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

อนึ่ง ขอเรียนให้ท่านทราบว่า “แม้บริษัทไม่ใช่ผู้มีหน้าที่ในการดำเนินการสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 ตามกำหนดของรัฐ” แต่เป็นการ “ทำหน้าที่ในฐานะเอกชนและพลเมือง” ที่ไม่เพิกเฉยต่อสถานการณ์การระบาดของโรคที่มีในปัจจุบัน เพื่อช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว