สธ. ปูพรมวัคซีน ต.ค. ย้ำเป้าทุกจังหวัด 50% พร้อมเร่งบูสเตอร์เข็ม 3

วิธียื่นรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีอาการไม่พึงประสงค์จากวัคซีน
ภาพจากเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์

สธ. เปิดแผนวัคซีน ต.ค. ตั้งเป้าทุกจังหวัดฉีดครอบคลุมประชาชน 50% อย่างน้อยใน 1 อำเภอต้องมากกว่า 70% ควบคู่กระตุ้นเข็ม 3 กลุ่มซิโนแวค-เร่งฉีดไฟเซอร์กลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปผ่านสถานศึกษา เตรียมรับเปิดเทอม

วันที่ 10 กันยายน 2564 นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สำหรับเป้าหมายการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ในเดือนตุลาคมนี้ ทาง สธ. จะเน้นใน 4 แนวทาง ดังนี้

1.เน้นให้ทุกจังหวัดฉีดครอบคลุมประชากรทั้งหมดอย่างน้อย 50% และแต่ละจังหวัดให้มีอย่างน้อย 1 อำเภอ ความครอบคลุม 70% และมีต้นแบบ COVID free Area อย่างน้อย 1 พื้นที่ 

รวมทั้งเพิ่มความครอบคลุมในกลุ่มสูงอายุ ผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค หญิงตั้งครรภ์ให้มากที่สุด ส่วนกลุ่มอื่น ๆ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา 

2.ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 สำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรก 

3.ขยายกลุ่มอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน 

4.ฉีดเข็มกระตุ้นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2564

5.ฉีดพื้นที่เศรษฐกิจและเพื่อควบคุมการระบาด

ทั้งนี้ กรณีจัดหาวัคซีนได้มากกว่าหรือน้อยกว่า 24 ล้านโดส จำนวนที่จัดสรรจะปรับเพิ่มหรือลดตามสัดส่วนวัคซีนที่ได้รับ

สำหรับการให้บริการวัคซีนไฟเซอร์สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ได้แก่ นักเรียน/นักศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพหรือเทียบเท่านั้น

จะให้บริการผ่านสถาบันการศึกษา อาทิ โรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดรัฐบาลและเอกชน สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โรงเรียนสอนศาสนา สถาบันการศึกษาอื่น ๆ ที่มีผู้มีอายุ 12 ปีขึ้นไปกำลังศึกษาอยู่ เช่น โรงเรียนทหาร เป็นต้น 

อย่างไรก็ดี หากนักเรียน หรือนักศึกษาในสถาบันการศึกษาดังกล่าว มีอายุเกิน 18 ปี ให้รับวัคซีนไฟเซอร์ ได้พร้อมกับนักเรียนในโรงเรียน แต่ให้เป็นไปตามสมัครใจของผู้ปกครองและเด็ก