นีลเส็น เปิดเม็ดเงินโฆษณาเดือน ส.ค. ยอดวูบ 13% ดิ่งทุกสื่อ เหลือ 8,118 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวม 8 เดือน ทะลุ 70,685 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% อาหารเครื่องดื่ม-เครื่องสำอาง-ขายตรง ขึ้นแท่น 3 อุตสาหกรรมเทงบสูงสุด
วันที่ 14 กันยายน 2564 ปฏิเสธไม่ได้ว่าการดำรงอยู่ของโควิดที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี ฉุดกำลังซื้อผู้บริโภคลดลง กระทบถึงธุรกิจในหลายอุตสาหกรรม และส่งผลต่อเนื่องให้แบรนด์ลดหรือชะลอการใช้เม็ดเงินโฆษณาออกไป
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
ล่าสุด นีลเส็น เปิดเม็ดเงินโฆษณาเดือนสิงหาคม หดตัว 13% เหลือ 8,118 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่มีมูลค่าที่ 9,330 ล้านบาท โดยแนวโน้มทุกสื่อ ยกเว้นสื่ออินเทอร์เน็ตอยู่ในช่วงขาลงทั้งสิ้น
สื่อทีวีแม้มีสัดส่วนเม็ดเงินในอันดับที่สูงที่สุด แต่ยังคงติดลบ 12% เหลือ 4,914 ล้านบาท สื่อนอกบ้านหดตัว 15% มีเงินสะพัด 706 ล้านบาท สื่อวิทยุดิ่งลง 11% เหลือ 259 ล้านบาท สื่อสิ่งพิมพ์หดตัว 29% มีเม็ดเงินหมุนเวียนเพียง 246 ล้านบาท สื่อโรงภาพยนตร์อ่วมสุดหลังโดนปิดติดลบ 94% เหลือ 17 ล้านบาท สื่ออินสโตร์หดตัวเล็กน้อย 4% เหลือ 45 ล้านบาท ขณะที่สื่ออินเทอร์เน็ตเติบโตขึ้น 0% เม็ดเงินใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยมีมูลค่าอยู่ที่ 1,931 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในมุมภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณา 8 เดือนในปี 64 (มกราคม-สิงหาคม) ยังคงเป็นบวกอยู่ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 63 โดยมีมูลค่าอยู่ที่ 70,685 ล้านบาท สื่อหนักครองมาร์เก็ตแชร์สูงสุดยังคงเป็นสื่อทีวีที่ 61%
ส่วนภาพรวมการใช้เม็ดเงินใน 8 เดือนที่ผ่านมา อุตสาหกรรมหลัก 3 กลุ่มแรกใช้เม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ได้แก่ กลุ่มอาหาร/เครื่องดื่ม (Food&Beverage) มูลค่า 11,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +16%,กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล/เครื่องสำอาง (Personal Care & Cosmetic) มูลค่า 9,835 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +5% และกลุ่ม Media & Marketing ซึ่งส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการขายตรงมูลค่า 9,111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +13% ขณะที่กลุ่มยานยนต์ (Automotive) มูลค่า 3,850 ล้านบาทลดลง -5%
ในส่วนของบริษัทที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในปี 2021 โดย 3 ลำดับแรกได้แก่ บริษัท UNILEVER (THAI) HOLDINGS CO.,LTD. มูลค่า 3,474 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +33% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาคือ ซันซิล สีชมพู ช่วยจัดทรงง่ายขึ้น 5 เท่า หอมนาน 72 ชม ทางสื่อทีวีมูลค่า 33 ล้านบาท รองลงมาคือ ซันซิล ไฮเดรนเยีย&แพร์ ผมหอมนานตลอดวัน ทางสื่อทีวีมูลค่า 24 ล้านบาท
รองลงมา คือ บริษัท NESTLE(THAI) CO.,LTD. มูลค่า 2,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +20% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาคือเนสกาแฟ กระป๋องเขียว อร่อยเข้ม เต็มเหนี่ยว ทางสื่อทีวีมูลค่า 27 ล้านบาท รองลงมาคือ เอส-26 โกลด์ โปรเกรส มีสฟิงโก ไมอีลิน ทางสื่อทีวีมูลค่า 26 ล้านบาท
ส่วนบริษัท PROCTER & GAMBLE (THAILAND) มูลค่า 1,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว +13% โดยแคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คือ เฮดแอนด์โชว์เดอร์ เหนือกว่า 5 เท่า ทางสื่อทีวีมูลค่า 32 ล้านบาท รองลงมาคือ รีจอยส์ สีเขียวใหม่ ผมสลวย กลิ่นหอมติดยาวนาน ทางสื่อทีวีมูลค่า 28 ล้านบาท
