“นารายา” ผนึกคาเฟ่ อเมซอน วางขาย “มาสก์-ถุงผ้า” ทั่วไทย

“นารายา” ผนึกกำลัง “โออาร์” ประเดิมขายหน้ากากอนามัย-ถุงผ้าใน “คาเฟ่ อเมซอน” ทั่วประเทศ ก่อนต่อยอดลุยขายตามสาขาในต่างประเทศ มั่นใจเสริมแกร่งซึ่งกันและกันเดินหน้าฝ่าวิกฤต

นางวาสนา ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “นารายา” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทต้องมีการปรับตัวรวมถึงแผนงานใหม่ จากเดิมกลุ่มลูกค้านารายาเป็นนักท่องเที่ยว 80% แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นักท่องเที่ยวที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหายไป บริษัทจึงหันหลับมามองตลาดในประเทศด้วยการสร้างการเข้าถึงลูกค้าภายในประเทศผ่านสินค้าที่หลากหลาย และหันมารับจ้างผลิต (OEM)

ควบคู่กับการจับมือกับหลายแบรนด์ในการสร้างการรับรู้ และกระจายช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายขึ้น โดยเน้นหลักในเรื่องของคุณภาพ (quality), วาไรตี้ (variety), ฟังก์ชั่นนอล (functional) และราคาที่เข้าถึงได้ (Affordable) รวมถึงมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์และสินค้าให้ดูเด็กลง (look younger) และขยายไลน์สินค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น เน้นความเป็น value for money ความคุ้มค่าคุ้มราคา

ล่าสุดได้จับมือกับคาเฟ่ อเมซอน (บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ด้วยการนำสินค้าของนารายาเข้าวางจำหน่ายในร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนทั่วประเทศ โดยช่วงแรกมีสินค้า 5 รายการประกอบด้วย ชุดเซต หน้ากากอนามัย และถุงผ้า รวมทั้งมีแผนจะต่อยอดด้วยการนำไปวางจำหน่ายในสาขาของคาเฟ่ อเมซอนในต่างประเทศด้วยในอนาคต

“สถานการณ์โควิดทำให้ลูกค้าไม่สามารถกลับมาช็อปปิ้งที่หน้าร้านได้ตามปกติ บริษัทก็ต้องกลับไปหาลูกค้าเองภายใต้โจทย์ที่ว่า ทำอย่างไรสินค้าถึงมือลูกค้าที่ยังมีความต้องการอยู่ จึงเกิดเป็นความร่วมมือดังกล่าวขึ้น และเป็นการสร้างและขยายการรับรู้แบรนด์ผ่านหน้าร้านคาเฟ่ อเมซอนที่มีอยู่ทั่วประเทศ”

ด้านนายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR บริษัทในกลุ่ม ปตท. กล่าวในเรื่องนี้ว่า จากการระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปีที่ผ่านมาทำให้ OR มองหาพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่ม nonfood เพื่อมาเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ สาขาและหน้าร้าน ด้วยการมองหาสินค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายในแง่ความหลากหลายเข้ามาเสริมอย่างต่อเนื่อง

การจับมือกับนารายาครั้งนี้จะเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการกระตุ้นผู้บริโภคให้มาจับจ่ายใช้สอยภายในร้าน และเป็นนโยบายส่วนหนึ่งในการเปิดโอกาสให้ SMEs เข้ามาจำหน่ายสินค้าภายในร้าน เพื่อส่งเสริมรายได้ให้ประชาชนและกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก

สินค้าของนารายาจะวางจำหน่ายในร้านคาเฟ่ อเมซอน จะกระจายไปยังสาขาต่าง ๆ ครอบคลุมกว่า 80-90% ของสาขาร้านคาเฟ่ อเมซอนทั่วประเทศ หรือปัจจุบันมีสาขาทั้งสิ้น 3,700-3,800 สาขา

“การที่นารายานำสินค้าเข้ามาจำหน่ายในร้านหรือสาขาจะเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ผู้ผลิตในห่วงโซ่ตั้งแต่ผู้ผลิต แรงงาน ไปจนถึงพนักงานขาย เนื่องจากนารายาเป็นผู้ประกอบการที่ช่วยเหลือชุมชน เลยมองว่าหากมีการต่อยอดวางจำหน่ายสินค้าของนารายาในร้านก็จะเป็นการช่วยเหลือชุมชน ประชาชน ให้มีงานทำ มีรายได้ในช่วงโควิดนี้ และอีกด้านหนึ่งการร่วมมือกันดังกล่าวจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการชาวไทยให้พ้นวิกฤตจากปัญหาเรื่องการระบาดของโควิดในขณะนี้”

นายสุชาติกล่าวด้วยว่า ในอนาคตหากมีโอกาสบริษัทก็จะนำสินค้าของพาร์ตเนอร์ต่าง ๆ รวมไปถึงนารายาไปวางจำหน่ายในสาขาต่างประเทศด้วย เบื้องต้นอาจจะเริ่มจากการนำสินค้าตัวอย่างไปวางในสาขาต่างประเทศ เพื่อสร้างการรับรู้ หากมีความสนใจก็จะเกิดการสั่งซื้อตามมา และเกิดการสั่งซื้อเกิดขึ้น โดยปัจจุบันร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอนมีสาขาในกัมพูชากว่า 100 สาขา สปป.ลาวเกือบ 100 สาขา, เวียดนามที่จับมือกับซีอาร์จีในการทำตลาด ส่วนในประเทศจีนที่นารายามีแฟนคลับเป็นจำนวนมากเพิ่งเปิดสาขาที่มณฑลหนานหนิง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ขณะที่ประเทศโอมานก็เติบโตได้ดี