สธ.ยันยังไม่มีมาตรการปิดห้าง-โรงงาน หวั่นเชื้อกระจายออกต่างจังหวัด

สธ.ย้ำโควิดรอบนี้ ไม่ปิดเหมาโหลห้าง-ร้านอาหาร-โรงงาน ชี้พิจารณาเป็นพื้นที่ เผย 7 ม.ค.เตรียมชง ศบค.ยกระดับมาตรการเดินทางเข้าประเทศ-กักตัว-เพิ่มพื้นที่สีส้มแดง รับมือการแพร่ระบาด

วันที่ 6 มกราคม 2565 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์โควิดระดับโลกเป็นอีกวันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สูงถึง 2.23 ล้านราย ผลักยอดสะสมเกือบถึง 300 ล้านราย การติดเชื้อขณะนี้เริ่มกระจายไปทั่วทั้งอเมริกา อินเดีย ตลอดจนบราซิล ทว่าการเสียชีวิตลดลงเหลือ 1.84% จากเดิม 2.3% ผลพวงสำคัญจากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด และโอมิครอนมีความรุนแรงน้อยกว่า

สำหรับประเทศไทยมีการติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5,775 ราย แบ่งเป็นจากผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 215 ราย โดยจากระบบ test and go 135 ราย และแซนด์บอกซ์ 62 ราย ขณะที่อัตราการป่วยหนักของไทย ทั้งกลุ่มปอดอักเสบ และใส่ท่อช่วยหายใจก็ลดลง ส่วนอัตราการเสียชีวิตวันนี้มีเพียง 11 คน สอดคล้องกับสถานการณ์โลกโดยรวม

หลัก ๆ การติดเชื้อในปัจจุบันมาจากจังหวัดท่องเที่ยวที่มีคนเดินทาง และการเกิดคลัสเตอร์ร้านอาหารกึ่งผับบาร์ เช่น ชลบุรี 769 ราย สมุทรปราการ 494 ราย และ กทม. 454 ราย ทั้งนี้ การติดเชื้อเป็นไปตามการประเมินไว้เบื้องต้นว่า หากไม่มีมาตรการรองรับ จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อถึงหลักหมื่นคนภายในไม่กี่วัน

ขณะที่การแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนจากระดับ 3 เป็น 4 ต้องย้ำว่าเป็นการเตือนภัยจากการประเมินภาพรวมโดย สธ. ซึ่งต่างกับ ศบค.ที่จะประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยงตามระดับสี โดยจะมีมาตรการต่าง ๆ เช่น ห้ามทำกิจกรรม ขณะนี้เรายกระดับเป็น 4 ซึ่งความร่วมมือจากทุกคนกับภาครัฐ คือ

1.งดไปสถานที่เสี่ยง งดรับประทานอาหาร ดื่มสุราในร้านอาหาร เช่น สถานที่ระบบอากาศไม่ดี คนแออัด สวมหน้ากากอนามัยน้อยมาก หรือมีคนไม่สวมหน้ากากอนามัย เช่น ร้านอาหารกึ่งผับบาร์

2.กิจกรรมที่คนร่วมกันมาก ขอให้เลี่ยงหรืองด 3.การเดินทางข้ามจังหวัด ขอให้เดินทางเฉพาะที่จำเป็น เช่น หากเดินทางด้วยรถสาธารณะ จะต้องระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย ตรวจ ATK ที่ต้องเดินทางนาน ๆ

นพ.โอภาสกล่าวต่อไปว่า ในวันพรุ่งนี้ (7 ม.ค.) สธ.เตรียมเสนอ ศบค.ให้เข้มงวดเรื่องการเข้าระบบกักตัวมากขึ้น รวมไปถึงการปรับจังหวัดเป็นสีส้มและสีแดง ซึ่งขณะนี้จับตาอยู่ 10 จังหวัด ที่มีอัตราผู้ติดเชื้อใหม่เกินกว่า 100 คน/วัน สำหรับมาตรการเบื้องต้นเมื่อยกระดับจะมีการงดและควบคุมการดื่มแอลกอฮอลล์

ส่วนกรณีโรงเรียนยังไม่ถือเป็นพื้นที่เสี่ยง เนื่องจาก ใน ร.ร. มีจุดที่เสี่ยงเพียง 2 จุด ได้แก่ 1.การรับประทานอาหารในโรงอาหาร 2.การทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น การเชียร์กีฬา การร้องเพลง หากปรับตรงนี้ได้ก็ไม่ถือว่าเสี่ยง

เมื่อถามถึงกรณีร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าต้องปิดหรือไม่นั้น อธิบดีกรมควบคุมโรคย้ำว่า การให้ระมัดระวังการทานอาหารนอกบ้านเป็นเพียงการแจ้งเตือนประชาชน หากขณะรับประทานอาหารถอดหน้ากากอนามัยไม่นานก็ถือว่าเสี่ยงน้อย และถ้าใช้วิธีตรวจ ATK ก่อนเดินทางไปร้านอาหารก็จะช่วยได้ระดับหนึ่ง ซึ่งการแจ้งเตือนโควิดระดับที่ 4 ถือว่ายังไม่ถึงกับงดกิจกรรมทุกอย่าง

เพียงแต่ขณะนี้ขอความร่วมมือจากประชาชน งดกิจกรรมอะไรที่เสี่ยงนั่นเอง ส่วนมาตรการด้านกฎหมายจะต้องรอให้ ศบค.เป็นผู้พิจารณาแนวทางปฏิบัติต่อไป อาทิ เรื่องการเข้าประเทศ ส่วน สธ.เบื้องต้นได้เตรียมข้อมูลให้ทั้งหมดแล้ว

นอกจากนี้ ในส่วนห้างสรรพสินค้าจะปิดหรือไม่นั้น จะพิจารณาว่าจุดไหนมีความเสี่ยง ไม่ได้ปิดแบบเหมาโหล เนื่องจากหากปิดหมดประชาชนจะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนานำความเสี่ยงกระจายไปทั่ว โดยเฉพาะฝั่งโรงงานหากพบเชื้อจะทำมาตรการบับเบิลแอนด์ซีล แทน โดยขอเรียนว่าไม่มีความจำเป็นต้องปิดทั้งหมด