ส.ขอนแก่น จ่อขึ้นราคา คุมเข้มต้นทุน-ลดเสี่ยง

ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ เบรกลงทุนรับมือวิกฤตโควิด-ราคาหมูพุ่ง กางแผนสั้น-ยาว จัดทัพรับมือราคาวัตถุดิบ เล็งปรับราคาสินค้า หันบริหารต้นทุนสต๊อก ลดความเสี่ยงระยะยาว พร้อมเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ทั้งอาหารขบเคี้ยว สินค้าของฝาก อาหารพร้อมทาน ขยายฐานลูกค้าด้านธุรกิจอาหาร บุกขายออนไลน์รับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่

นายจรัสภล รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจอาหารพร้อมรับประทาน (RTE-QSR) บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการในระบบจำนวนมาก ทั้งธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคและธุรกิจอาหาร

เช่นเดียวกับ ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ได้รับผลกระทบจากราคาเนื้อหมูที่ทำให้โรงงานการผลิตบางแห่งมีต้นทุนสูงขึ้น จึงต้องประเมินสภาพตลาดซึ่งอาจมีการพิจารณาปรับราคาสินค้าบางรายการ

ขณะเดียวกัน บริษัทต้องวางแผนรับมือโดยแผนงานระยะสั้นมุ่งให้ความสำคัญด้านการบริหารจัดการสต๊อกวัตถุดิบ วางแผนการจัดซื้อและปริมาณความต้องการของการใช้วัตถุดิบโดยรวม เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบ ควบคู่กับการกำหนดแผนงานระยะยาวเพื่อรับมือ

ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมหันมาเพิ่มน้ำหนักธุรกิจฟาร์มหมูที่อยู่ภายใต้บริษัท ส.ปศุสัตว์ จำกัด บริษัทในเครือมากขึ้นด้วยการเพิ่มจำนวนการเลี้ยงหมูและพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงหมูต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นถึงปัญหาที่มาจากความผันผวนของราคาวัตถุดิบอาจจะส่งผลต่อต้นทุนในอนาคต ซึ่งการบริหารจัดการดังกล่าวยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาสูงในระยะยาวได้

นอกจากนี้ ต้องรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรมอาหาร ทำให้ที่ผ่านมาบริษัทมีการชะลอการลงทุนบางส่วนออกไป โดยหันมาบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการปรับกลยุทธ์ด้านการจัดกิจกรรมการตลาด เช่น การจัดโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ผู้บริโภค ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาบริษัทยังสามารถรักษาการเติบโตและรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้

สำหรับกลยุทธ์และเป้าหมายการดำเนินงานต่อจากนี้ บริษัทยังมุ่งให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มาจากการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น กลุ่มอาหารพื้นเมือง อาหารทะเล อาหารขบเคี้ยว สินค้าของฝาก และอาหารพร้อมทาน เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ตรงจุด โดยเฉพาะวัยทำงานและวัยรุ่น

ควบคู่กับการขยายช่องทางจัดจำหน่าย ทั้งการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์พัฒนาช่องทางร่วมกัน ตลอดจนขยายช่องทางขายของบริษัทเพิ่มขึ้นเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ ๆ ให้เป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น

ที่ผ่านมาได้มีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ ทั้งบรรจุภัณฑ์ใหม่และช่องทางสื่อสารออนไลน์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภค ปัจจุบันได้เพิ่มช่องทางการจำหน่ายที่นอกเหนือจากโมเดิร์นเทรด เช่น ดีลิเวอรี่ คลาวด์คิตเช่นฟู้ดทรัก เทรดิชั่นนอลเทรด และขายผ่านแพลตฟอร์ม online market place อย่าง Shopee เพื่อเป็นทางเลือกในการเข้าถึงสินค้าและโปรโมตกิจกรรมการตลาดในช่วงสถานการณ์โควิด-19 พร้อมยังปรับปรุงโรงงาน เครื่องจักร และนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต

ขณะที่ธุรกิจร้านอาหาร แบรนด์แซ่บคลาสสิก ปัจจุบันมีสาขา 13 แห่ง เป็นการลงทุนของบริษัทและแฟรนไชส์ ที่ผ่านมาได้หันมาเพิ่มน้ำหนักช่องทางดีลิเวอรี่ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ส่วนร้านข้าวขาหมูยูนนานปัจจุบันมี 13 สาขา แบ่งเป็นสาขาในประเทศ 12 แห่ง และต่างประเทศ 1 แห่ง

มีจุดแข็งคือการพัฒนาสูตรขาหมูให้มีรสชาติพะโล้เข้มข้น ให้ทุกสาขามีมาตรฐานเดียวกัน อีกทั้งยังได้ทดลองโมเดลฟู้ดทรักกระจายตามจุดขายต่าง ๆ เน้นความสะดวกรวดเร็วและเข้าถึงง่าย

อย่างไรก็ตาม วิกฤตโควิดยังเป็นความท้าทายของทุก ๆ ธุรกิจ และต้องปรับตัวให้สอดรับกับความต้องการผู้บริโภคที่ซับซ้อนมากขึ้น ประกอบกับต้องปรับนโยบายธุรกิจให้เข้ากับนิวนอร์มอล

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมี 3 ธุรกิจหลักประกอบด้วย ธุรกิจอาหารแปรรูป จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของฝากจากจังหวัดขอนแก่น มีสินค้าประเภทแหนม หมูยอ ไส้กรอกอีสาน ลูกชิ้นหมู หมูหยอง หมูแผ่น กุนเชียง ภายใต้ตราสินค้า ส.ขอนแก่น, หมูดี, ห้วยแก้ว, บ้านไผ่, หมูแชมป์ และเศรษฐี เป็นต้น

ตามด้วยธุรกิจร้านอาหารประเภท GSR ภายใต้แบรนด์ร้านข้าวขาหมูยูนนาน และแซ่บคลาสสิก โดยมีการขยายและพัฒนารูปแบบแฟรนไชส์และธุรกิจฟาร์มหมู