อานิสงส์โควิด-19 ดัน ออนไลน์-ของหรู ยอดพุ่ง

ช็อกโกแลต
คอลัมน์ : Market Move

แม้วิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกจะเริ่มกลับเป็นปกติ แต่บรรดาแบรนด์ใหญ่อย่างบีม ซันโทรี และมาร์ส ริกลีย์ เชื่อว่าพฤติกรรมการจับจ่ายและบริโภคขนมหวานและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เปลี่ยนแปลงไปในช่วงการล็อกดาวน์ระหว่างการระบาดของโรคโควิด-19 จะยังคงอยู่และกลายเป็นโอกาสทางธุรกิจในยุคหลังการระบาด

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานถึงเทรนด์นี้ว่า ผู้บริโภคทั่วโลกรวมถึงในสหรัฐอเมริกาต่างยังคงมีพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ 2 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขยับขึ้นไปซื้อสินค้าจากแบรนด์ระดับสูงและราคาแพงขึ้น หรือพรีเมี่ยมไมเซชั่น การซื้อขนมหวานแบบชิ้นเล็กแบบแพ็กใหญ่ ความนิยมค็อกเทลพร้อมดื่ม รวมถึงการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านช่องทางออนไลน์

“เจสซิกา สเปนส์” ประธานกรรมการของบีม ซันโทรี ผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายแบรนด์ อาทิ วิสกี้จิมบีมเหล้าญี่ปุ่นโฮโรโยอิ ฯลฯ กล่าวว่า ช่วงล็อกดาวน์ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถไปดื่มในร้านประจำหรือออกไปสังสรรค์ในวันหยุดได้ ผู้คนจึงหันไปสร้างโอกาสพิเศษให้ตนเองด้วยการทุ่มเงินซื้ออาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แปลกใหม่ หรูและราคาแพงกว่าปกติมาดื่มแทน

เทรนด์นี้ทำให้เกิดการขยับไปซื้อสินค้าจากแบรนด์ระดับสูงและราคาแพงขึ้น หรือพรีเมี่ยมไมเซชั่นขึ้น ขณะเดียวกันทำให้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายตัวที่ปกติไม่เป็นที่นิยมในตลาดนั้น ๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น เช่นเดียวกับการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านออนไลน์ ซึ่งเดิมเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ยากในวงการนี้ โดยเฉพาะตลาดสหรัฐที่คนส่วนใหญ่ซื้อผ่านร้านค้าเป็นหลัก จนการซื้อผ่านออนไลน์ต่ำเป็นพิเศษ

โดยการสำรวจล่าสุดของบริษัทวิจัยไอดับเบิลยูเอสอาร์พบว่า ในกลุ่มชาวอเมริกันที่ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านออนไลน์ในขณะนี้ 54% ยอมรับว่าเพิ่งเคยซื้อผ่านออนไลน์ครั้งแรกเมื่อช่วงโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมา

นอกจากช่องทางการซื้อแล้ว ค็อกเทลพร้อมดื่มเป็นอีกเทรนด์ที่มาแรงต่อเนื่องจากช่วงการระบาดเช่นกัน

ประธานกรรมการของบีม ซันโทรี อธิบายว่า ความนิยมนี้เกิดขึ้นเพราะหลายคนใช้ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาทดลองเครื่องดื่มใหม่ ๆ แต่ขณะเดียวกันหลายคนพบว่าตัวเองไม่ใช่บาร์เทนเดอร์ที่เก่งเท่าที่คิด และการทำค็อกเทลเองที่บ้านก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

ทั้งนี้ ตามรายงานของสภาสุรากลั่นแห่งสหรัฐ ปี 2564 ที่ผ่านมา ค็อกเทลพร้อมดื่มกลายเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เติบโตเร็วที่สุดของตลาดสหรัฐ หลังยอดขายเติบโต 42% เป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมอื่น ทั้งเตกีลา และไอริสวิสกี้ ที่เติบโต 30% และ 16% ตามลำดับ

การเติบโตนี้ทำให้ค็อกเทลพร้อมดื่มขึ้นแท่นเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยอดนิยมอันดับ 2 รองจากวอดก้าในด้านปริมาณการบริโภค ขณะเดียวกันผู้ผลิตรายใหญ่ต่างลงทุนกับสินค้าตัวนี้ ทั้งแอนเฮาเซอร์-บุช อินเบฟ และดิเอโก ทั้งด้วยการซื้อกิจการเข้ามาเสริมพอร์ตและนำแอลกอฮอล์จากแบรนด์อื่นในเครือมาใช้ผลิตค็อกเทล ส่วนบีม ซันโทรีมีค็อกเทลพร้อมดื่มหลายตัว ซึ่งต่างใช้สินค้าอื่น ๆ ของบริษัทมาเป็นส่วนผสม

“เชื่อว่าเทรนด์เหล่านี้จะยังคงอยู่แม้การระบาดจะสิ้นสุดลงและผู้บริโภคกลับมาใช้ชีวิตตามปกติแล้ว เช่นเดียวกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ผู้เล่นในวงการพัฒนาขึ้นเพื่อผลักดันสินค้าของตนให้ขึ้นไปยังกลุ่มพรีเมี่ยมและรับมือการแข่งขัน”

ด้านวงการธุรกิจขนมนั้นเกิดปรากฏการณ์คล้ายกัน “แอนตัน วินเซนท์” ประธานกรรมการของมาร์ส ริกลีย์ ภูมิภาคอเมริกาเหนือ กล่าวว่า นอกจากกระแสพรีเมี่ยมไมเซชั่นที่เกิดจากผู้บริโภคหาขนมใหม่ ๆ มาลองทานแล้ว ยังมีอีกกระแสที่สำคัญคือ การซื้อสินค้าแพ็กใหญ่และการซื่อผ่านออนไลน์

โดยแม้ขณะนี้ยอดขายในร้านสะดวกซื้อจะกลับสู่ระดับปกติแล้ว แต่ยอดขายจากออนไลน์และช่องทางจำหน่ายอื่น ๆ ยังคงแข็งแกร่ง เชื่อว่าเป็นเพราะผู้บริโภคกลับไปชื่นชอบการให้รางวัลตัวเองด้วยขนมหวานเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ราคาจับต้องได้

ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้นับเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่เกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งต้องจับตาดูว่าแต่ละแบรนด์จะใช้ประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้อย่างไร