หมอธีระวัฒน์ เทียบการติดโควิดซ้ำ หลังรับยาแพกซ์โลวิด-โมลนูพิราเวียร์

หมอธีระวัฒน์

หมอธีระวัฒน์ เปรียบเทียบการติดเชื้อโควิดซ้ำ หลังได้รับยาต้านไวรัส “แพกซ์โลวิด” และ “โมลนูพิราเวียร์” ชี้ไม่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับภาวะโรคประจำตัว 

วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุถึงการติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำ แม้จะได้รับยาต้านไวรัสไปแล้วก็ตาม

โพสต์ดังกล่าวระบุว่า การรายงานจากสหรัฐ (preprint) โดยวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 8 มิถุนายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงของโอมิครอน

รักษาด้วย paxlovid 11,270 ราย หรือรักษาด้วย molnupiravir 2,374 ราย ภายในระยะเวลาห้าวันหลังจากมีการติดเชื้อ การกลับมาใหม่ หรือ rebound มี 3 ลักษณะ คือ

1) มีเชื้อกลับมาใหม่ จากการตรวจ

2) มีอาการกลับมาใหม่ ได้แก่ ไข้ หนาวสั่น ไอ หายใจไม่เต็มอิ่ม เหนื่อยล้า ปวดกล้ามเนื้อปวดหัว เจ็บคอ จมูกคัด น้ำมูกไหล ไม่รับรส กลิ่น อาเจียน ท้องเสีย ผื่น

3) ต้องเข้าโรงพยาบาล

ลักษณะที่กลับมาใหม่ไม่แตกต่างกันของการใช้ยา paxlovid หรือ molnupiravir คนที่มีโรคประจำตัวจะมีการกลับมาใหม่มากกว่า

สำหรับ paxlovid

  • ที่ 7 วัน และ 30 วัน
  • ลักษณะที่หนึ่ง 3.53% และ 5.4%
  • ลักษณะที่สอง 2.31% และ 5.87%
  • ลักษณะที่สาม 0.44% และ 0.77%

สำหรับ molnupiravir

  • ที่ 7 และ 30 วัน
  • ลักษณะที่หนึ่ง 5.86% และ 8.59%
  • ลักษณะที่สอง 3.75% และ 8.21%
  • ลักษณะที่สาม 0.84% และ 1.39%

เมื่อดูผิวเผิน คล้ายกับการใช้ molnupiravir จะมีการกลับมาใหม่มากกว่า แต่เมื่อวิเคราะห์ propensity score matching ซึ่งเป็นวิธีจัดการกับตัวแปรและปัจจัยต่าง ๆ เพื่อให้มีความน่าเชื่อถือแม่นยำมากขึ้นในการระบุความเสี่ยง จะพบว่า ความเสี่ยงระหว่างการใช้ยาทั้งสองชนิดนี้ไม่แตกต่างกัน แต่ขึ้นกับภาวะหรือโรคประจำตัวของผู้ติดเชื้อ

มีโรคหัวใจ ความดันสูง มะเร็ง โรคอัมพฤกษ์ โรคปอด โรคไต โรคตับ อ้วน เบาหวาน โรคทางระบบภูมิคุ้มกัน การได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ รวมถึงการให้ยาต้านภูมิคุ้มกัน และไม่เกี่ยวพันกับการได้รับวัคซีนหรือไม่

สาเหตุกลไกของการกลับมาใหม่ “ไม่ทราบแน่ชัด” แต่อาจเกี่ยวเนื่องกับการรักษาไม่สามารถกำจัดไวรัสไปได้อย่างหมดจด หรือไวรัสดื้อยา ?

อย่างไรก็ตาม การให้ยาต้านไวรัสอย่างสมเหตุสมผลตามลักษณะของอาการที่เป็นมากขึ้น โดยในคนไทยที่ใช้ฟ้าทะลายโจรแล้วนั้น ไม่ดีขึ้นภายในระยะเวลา 2 วัน มีความจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันไม่ให้อาการหนักมากขึ้น จนกระทั่งถึงต้องเข้าโรงพยาบาล