ดัชนีหัวหิน ตัวชี้วัดท่องเที่ยว

หัวหิน
คอลัมน์ : สามัญสำนึก
ผู้เขียน : เมตตา ทับทิม

RIP ผู้ว่าฯหมูป่า ท่านณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีภาวะผู้นำมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศไทย

ชีวิตยังต้องดำเนินต่อไปค่ะ The show must go on

กลางสัปดาห์ที่ผ่านมา มีธุระต้องไปทำที่อำเภอทับสะแก คำนวณการเดินทางและธุระแล้วไม่สามารถไปเช้า-เย็นกลับได้ ก็เลยลากิจกะทันหัน 2 วัน

แวะพักค้าง 1 คืนที่ฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน บังเอิญว่าตอนเช็กอินโรงแรมเกือบ 1 ทุ่ม บรรยากาศเหมือนจะเงียบ ๆ เพราะเป็นช่วงกลางสัปดาห์ เป็นเรื่องเข้าใจได้

ท้องบอกว่าหิว ออกไปเดินเล่นตลาดฉัตรไชย นั่งกินข้าวเย็นร้านโกทิ เมนูเปลี่ยนไปเยอะ ไม่มีปลาเก๋าราดน้ำปลาที่อยากกินอีกต่อไปแล้ว มีคนไทย 1-2 โต๊ะ ที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น

ระหว่างรอกับข้าวซึ่งไม่นาน โต๊ะยาวของต่างชาติสูงวัยขยันตำจอกทุก 5 นาที เครื่องดื่มน่าจะเบียร์ไทย หัวเราะร่วนอยู่ตลอดเวลา

มีของใช้ส่วนตัวที่ต้องซื้อ แต่หัวหินนี่ก็แปลก อยากซื้อของในโลตัส เฟรช มาร์ท แต่เชื่อหรือไม่ หาร้านยากยิ่งกว่าทองคำ ขับรถทั้งหลงทั้งวนตามพี่กู (กูเกิลแมปส์) จนทะลุดงฝรั่งนั่งบาร์ นี่ก็กำลังซื้อต่างชาตินั่งเต็มอีกเหมือนกัน

กลับเข้าโรงแรมอีกทีเที่ยงคืน ตื่นเช้ามาเหมือนหนังคนละม้วน ชั้น 7 ไลน์บุฟเฟต์ของโรงแรม นักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นฟลอร์ ถึงกับต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันเลยทีเดียว

คุณพนักงานประจำฟลอร์เล่าว่า โรงแรมค่อนข้างเต็ม ก่อนหน้านี้เป็นครอบครัวคนไทย พากุลบุตรกุลธิดามาเล่นสวนน้ำ ตามประสาเด็กที่ลงน้ำแล้วไม่ยอมขึ้นง่าย ๆ

ขณะที่เดือนมิถุนายนส่วนใหญ่เปลี่ยนโหมดมาเป็นต่างชาติซะเยอะ น่าสังเกตว่านักท่องเที่ยวอินเดียยึดพื้นที่แทบจะ 80-90%

ก่อนหน้านี้ “พราวพุธ ลิปตพัลลภ” ผู้บริหารของพราว เรียลเอสเตท ซึ่งเป็นเจ้าของสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน กับสวนน้ำอันดามันดา ในภูเก็ต บอกว่าไตรมาส 1/66 นักท่องเที่ยวยกพลขึ้นเกาะภูเก็ตแล้ว 1 ล้านคน

นักท่องเที่ยวอันดับ 1 เราพูดถึงจีน อินเดีย ยุโรป อเมริกา เอเชียด้วยกัน ยังมีอีกสัญชาติคือตลาดรัสเซีย สงครามข้ามปีผลักให้คนมีสตางค์เริ่มมองหาบ้านหลัง 2 มากขึ้น

“ครึ่งปีแรกนักท่องเที่ยวรัสเซียดีมาก สงครามที่กำลังชุลมุนกันอยู่ คนรัสเซียที่มีเงินก็อาจมีแรงจูงใจที่จะนำเงินออกนอกประเทศอยู่แล้ว”

เทรนด์ที่มองเห็นคือ ในช่วงครึ่งปีหลังลูกค้ารัสเซียก็ยังมีเข้ามาบ้าง แต่หลัก ๆ ทุกคนยังหวังพึ่งลูกค้านักท่องเที่ยวจีน เพราะมาแบบทะลักทลาย

นักท่องเที่ยวต่างชาติเปรียบเป็นกำลังซื้อ เป็นรายได้ เป็น “เงินเดินได้” ที่เข้ามาใช้ชีวิตตามหัวเมืองท่องเที่ยวหลักของไทย

เทรนด์การทำมาหากินครึ่งปีหลัง 2566 เศรษฐกิจการพักผ่อนหย่อนใจเติบโตโดยธรรมชาติแน่ ๆ เอกชนพร้อมสุดขีดในการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

บังเอิญอีกเรื่อง งานดินเนอร์ทอล์กที่ “ประชาชาติธุรกิจ” เป็นเจ้าภาพจัดงาน เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

ในงานเป็นเกียรติอย่างสูงได้นั่งร่วมโต๊ะกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้บริหารที่กำลังนับถอยหลังเป็นผู้ว่าการ ททท. (การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) คนใหม่ ในวันที่ 1 ก.ย. 2566 นี้

โต๊ะเดียวกัน “กรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์” ซีอีโอ แอสเซทไวส์ เสนอไอเดียจัดงานสงกรานต์ไทยให้เป็นอีเวนต์ของโลก ลองนึกภาพเทศกาลแห่เทียนพรรษาที่มีกระบวนตกแต่งสวยงามมาประกวดประขันกัน

สถานที่จัดบนถนนราชดำเนินไปเลย ส่งเมสเสจให้บริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมมือร่วมใจส่งรถประกวดบริษัทละ 1 คัน มีการถ่ายทอดสดออกไปทั่วโลก ประเทศไทยจะสวยงามตรึงตราขนาดไหน

จังหวะเวลาน่าจะเข้าโค้งสุดท้าย ที่สุญญากาศการเมืองไทยจะเข้ารูปเข้ารอยสักที สื่อมวลชนถามนักธุรกิจอยู่ทุกวัน ปีนี้เหลืออีก 6 เดือนมีข้อกังวลอะไรบ้าง คำตอบรายละเอียดอาจแตกต่างกัน

แต่หัวใจสำคัญ ทุกคนบอกตรงกันว่า หลังมีรัฐบาลใหม่แล้ว อย่ามีการเมืองลงถนนก็พอ ขอแค่นั้นจริง ๆ