คอลัมน์ : Market-think ผู้เขียน : สรกล อดุลยานนท์
ต้องยอมรับว่าสงกรานต์ปีนี้คึกคักมากทุกพื้นที่
ไม่ว่าจะเป็นใน กทม. หรือต่างจังหวัด คนออกมาเล่นสงกรานต์แบบมืดฟ้ามัวดิน
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ผมคุยกับศิลปินและคนที่ดูแลศิลปิน เขาบอกว่าปีนี้นอกจากคิวงานแต่ละคนจะแน่นเอี้ยดแล้ว
คนดูก็ยังมากกว่าทุกปี
แถวบ้านผม ตามปกติคนจะเล่นสงกรานต์กันในวันที่ 13-14 เมษายน
วันที่ 15 ก็เริ่มเบาแล้ว
แต่ปีนี้วันที่ 15 ยังคึกคักอยู่เลย รถติดถึงช่วงค่ำ
วันที่ 16 ยังมีประปราย
ในขณะที่ต่างจังหวัด หลายจังหวัดเขาจัดกันถึงวันที่ 16 เลย
งานมหาสงกรานต์ World Water Festival ที่รัฐบาลจัดขึ้นที่สนามหลวงก็ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
แม้จะประชาสัมพันธ์ไม่ดี
แต่ต้องยอมรับว่าจัดงานได้ดีทีเดียว
วันแรกคนน้อยจนน่าตกใจ แต่พอเริ่มมีคนรับรู้ว่ามีงานที่สนามหลวง
2-3 วันหลังคนจึงแห่มาเที่ยวงานจนถือได้ว่าประสบความสำเร็จสูงมาก
ถ้าถามว่างานสงกรานต์ปีนี้ที่ประสบความสำเร็จเป็นฝีมือของรัฐบาลหรือไม่
งานนี้หากรัฐบาลจะเอาเครดิตทั้ง 100% ก็ดูจะมากเกินไป
เพราะ “ความสำเร็จ” ที่แท้จริงมาจากจังหวัด องค์กรท้องถิ่น และภาคเอกชนที่ร่วมกันจัดงานสงกรานต์อย่างจริงจัง
แค่ใน กทม.ก็เหมือนว่าจะมีงานแทบทุกพื้นที่
แต่ถ้าจะไม่ให้คะแนนรัฐบาลเลยก็ดูจะใจร้ายเกินไป
เพราะเมื่อเทียบกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้ให้ความสำคัญกับงานสงกรานต์มากที่สุด
กะว่าจะใช้เทศกาลนี้เป็นตัวจุดระเบิด “ซอฟต์พาวเวอร์” ในเมืองไทย
มีการโหมประโคมล่วงหน้าจนภาคเอกชนรู้สึกว่า รัฐบาลเอาจริง
เอกชนจึงทุ่มจัดงานสงกรานต์อย่างใหญ่โตในทุกพื้นที่
เพิ่งมารู้ตอนหลังว่า รัฐบาลมีงบฯจัดงานแค่ 140 ล้านบาท
สิ่งที่รัฐบาลควรได้คะแนนคือ การประกาศล่วงหน้าว่าจะจัดงานสงกรานต์อย่างยิ่งใหญ่และยาวนาน ซึ่งมีผลทางจิตวิทยาสำหรับคนจัดงาน
การเพิ่มวันหยุดช่วงสงกรานต์
การดูแลขนส่งสาธารณะ และการเดินทางให้มีปัญหาน้อยกว่าทุกปี ฯลฯ
แต่ส่วนอื่น ๆ ต้องให้คะแนนกับภาคเอกชน และองค์กรท้องถิ่นที่จัดเต็มมาก
ที่สำคัญ ต้องขอบคุณ “อากาศร้อน” แบบร้อนสุด ๆ ในช่วงสงกรานต์ด้วย
มันร้อนจนคนอยากออกไปสาดน้ำเล่น
ความจริงแล้ว รัฐบาลน่าจะฉกฉวยคะแนนจากงานสงกรานต์ปีนี้ได้ดีกว่านี้
ถ้ารัฐบาลมั่นใจและกล้าเดิมพัน
ผมสังเกตเห็นร่องรอย “ความไม่มั่นใจ” บางประการในช่วงก่อนเริ่มงาน
งานใหญ่ที่สุดของรัฐบาล คือ งานมหาสงกรานต์ที่สนามหลวง
แต่ประธานเปิดงาน ไม่ใช่ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี
หรือ คุณแพทองธาร ชินวัตร คนดูแลงานซอฟต์พาวเวอร์
กลับเป็น คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ส่วน 2 คนแรกไปเปิดงานสงกรานต์ของคิง เพาเวอร์ ที่ซอยรางน้ำ
เหมือนไม่อยากเอาตัวมาเป็นเป้าของงานนี้
นอกจากนั้น ระหว่างงานสงกรานต์ 4 วัน แทนที่จะมีใครสักคนมาบอกเล่าความสำเร็จในแต่ละวันของงานสงกรานต์
วันแรก คนมาเที่ยวแล้วกี่คน ที่จังหวัดไหนบ้าง
แทนที่จะมีแต่สถิติผู้เสียชีวิต และประสบอุบัติเหตุ
กระตุ้นให้เห็นว่ารัฐบาลจะวัดผลจากงานนี้อย่างจริงจัง
…เงียบ
คิดดูนะครับ ถ้างานสงกรานต์ปีนี้มีการโหมประโคมวันเปิดงานอย่างแรง ๆ
ประธานในพิธีเป็น นายกรัฐมนตรี
ระหว่างงานก็ประชาสัมพันธ์ความคึกคักของเทศกาลแห่งความสุขปีนี้
ภาพของงานสงกรานต์จะยิ่งใหญ่แค่ไหน และรัฐบาลจะมีความชอบธรรมมากขึ้นในการบอกว่าเป็นผลงานของตัวเอง
ยิ่งเห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วง 3 เดือนกว่าเพิ่มขึ้น 140% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ยิ่งชัดเจนว่าเป็นฝีมือของคุณเศรษฐา เพราะเอาจริงเอาจังกับเรื่องการท่องเที่ยวมาก
เมื่อปูพื้นมาดี ถ้าเติมความมั่นใจในการเดิมพันสักนิด
ความสำเร็จของเทศกาลสงกรานต์จะเป็นตัวจุดระเบิดที่ดีมากของการท่องเที่ยวไทย
…เสียดาย