คอลัมน์ Market-think
โดย สรกล อดุลยานนท์
ถ้า “เศรษฐกิจ” และ “การเมือง” เป็นกราฟกำหนดทิศทางเมืองไทย
วันนี้ “กราฟ” 2 เส้น เริ่มไต่ทะยานความร้อนแรงพุ่งเข้าหากัน
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
คาดว่าภายในเดือนตุลาคมนี้เราจะได้เห็นกราฟ “เศรษฐกิจ” และ “การเมือง” ตัดกัน
ในทาง “เศรษฐกิจ” หนี้สินของแต่ละบริษัทที่แบงก์ยอมพักชำระหนี้จะถึงกำหนดต้องชำระ
มีความพยายามจากทั้งทางแบงก์ชาติและแบงก์พาณิชย์ที่จะยืดหนี้ก้อนใหญ่ก้อนนี้ออกไป
ใครที่กู้แบงก์ซื้อบ้านก็เสนอให้นำหนี้ อื่น ๆ มารวมเป็นก้อนเดียวกับหนี้บ้าน เพื่อยืดระยะเวลาให้ยาวนานเท่ากับหนี้บ้าน
20-30 ปี
และดอกเบี้ยบ้านก็ถูกกว่าดอกเบี้ยอื่น
ยอดการชำระต่อเดือนก็ไม่สูงมาก
หรือบางแบงก์ก็ยอมให้เอาหนี้ที่พักไว้ทั้งเงินกู้และดอกเบี้ยมารวมกับจำนวนหนี้เดิมแล้วขยายเวลาการผ่อนชำระ
ให้ลูกหนี้มีโอกาสใช้หนี้แต่ละเดือนได้
แบงก์พยายามทำทุกอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด “เอ็นพีแอล”
เพราะถ้าไม่ช่วยลูกหนี้ รับรองว่าตัวเลข “เอ็นพีแอล” กระฉูดแน่นอน
นี่คือ “เศรษฐกิจ” ที่แท้จริงของเมืองไทย
ในขณะที่ “กราฟ” อีกเส้นหนึ่งที่กำลังร้อนแรงสุด ๆ
คือ “กราฟการเมือง”
โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเป็น “ระเบิดเวลา” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนสร้างขึ้น
ถ้าจำกันได้ตอนที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีคนบอกแล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็น “ระเบิดเวลา”
ทั้งเรื่องกฎกติกาที่ไม่เป็นธรรม
โดยเฉพาะเรื่องอำนาจ สว.เลือกนายกฯ
เท่าเทียมกับ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง
อย่าลืมว่า คสช. เป็นคนแต่งตั้ง ส.ว. 250 คน
หัวหน้า คสช.ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เป็นคนเดียวที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี
มนุษย์ที่มีใจเป็นธรรมก็รู้ว่าเป็นกติกาที่น่าเกลียดมาก
คนเล่นเลือกกรรมการเอง
ปัญหานี้พอแก้ไขได้ถ้ารัฐธรรมนูญแก้ไขง่าย ๆ เหมือนกับรัฐธรรมนูญฉบับอื่น
แต่ “มีชัย ฤชุพันธุ์” กลับร่างรัฐธรรมนูญแบบล็อกกุญแจ 3-4 ดอก
โดยเฉพาะเรื่องต้องให้ ส.ว. 84 คนอนุมัติ
แก้ไขยากมาก
วันนี้ พรรคการเมืองเสนอให้แก้ ม. 256 เพื่อให้กุญแจ 3-4 ดอก ลดเหลือแค่ดอกเดียว
มีทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน
แต่ทาง ส.ว.ดูเหมือนว่าจะไม่ยอม
กลัวว่า สสร.จะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ให้มีการเลือกตั้ง ส.ว.
และยกเลิก สว.ชุดนี้
ประเด็นสำคัญ ไม่ได้อยู่ที่ในรัฐสภา
หากแต่อยู่ที่นอกสภา
การชุมนุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเริ่มขยายวงมากขึ้นเรื่อย ๆ
การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ที่หลายคนคิดว่า “เป็นไปไม่ได้” กลับกลายเป็นเรื่อง “เป็นไปได้” เพราะ “ม็อบนักศึกษา”
ถ้านักเรียนนักศึกษาไม่ออกมาเคลื่อนไหว
พรรคการเมืองไม่มีทางขยับ
และ 19 กันยายนนี้จะมีม็อบใหญ่ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ลองดูไทม์ไลน์การเมืองนับจากวันนี้นะครับ
16-18 ก.ย. พ.ร.บ.งบประมาณเข้าสภา
19 ก.ย. ม็อบนักศึกษาชุมนุมที่ธรรมศาสตร์
20 ก.ย. ม็อบเคลื่อนไปที่ทำเนียบรัฐบาล
23-24 ก.ย. ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณารัฐธรรมนูญวาระที่ 1
หัวใจสำคัญของเรื่องนี้อยู่ที่วันที่ 19
คนที่เข้าร่วมชุมนุมจะมากหรือน้อย
ถ้า “น้อย” การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีสิทธิ์ “แท้ง”
แต่ถ้า “เยอะ”
จำนวนคนมากกว่าวันที่ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็มีสิทธิ์ผ่าน
แต่ถ้า ส.ว.ไม่สนใจ ไม่ยอมยกมือให้
นับจากวันที่ 24 กันยายนเป็นต้นไป การเมืองไทยเดือดแน่
และมีโอกาสจะระเบิดในเดือนตุลาคม
พร้อมกับเรื่องเศรษฐกิจ
ครับ เล่ามาทั้งหมดเพื่อจะบอกเรื่องเดียว
คืนนี้อย่าลืมสวดมนต์นะครับ