พปชร.ปราศรัยอยุธยา เปิดนโยบาย เงินอุดหนุนหญิงตั้งครรภ์ 5 เดือนขึ้นไป

สันติ-ชัยวุฒิ ปราศรัยย่อย กรุงเก่า เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา ชูนโยบาย บัตรประชารัฐ 700 บาท เงินอุดหนุนสตรีมีครรภ์ตั้งแต่เดือนที่่ 5 – เด็กแรกเกิดจนถึง 6 ขวบ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลทำทันที

วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยเวทีย่อย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3 เขต ประกอบด้วย

นายบุญเชิด ศิริยศ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 จ.พระนครศรีอยุธยา,นายชณทัต ปัทะมะภูวดล ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 จ.พระนครศรีอยุธยา และ นายธนพล บุญเจริญกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ว่าที่ผู้สมัครเขต2 จ.พระนครศรีอยุธยา ในแคมเปญหาเสียง “มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” การแก้ปัญหาน้ำ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน และ เพิ่มเงินสวัสดิการเป็น 700 บาท หรือ”ลุงป้อม 700”

ก่อนถึงกำหนดการปราศรัย คณะผู้บริหารจากพรรคพลังประชารัฐ พร้อมผู้สมัคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 3 เขต ได้ลงพื้นที่ขึ้นรถแห่รอบเมืองท่าเรือ ตั้งแต่บริเวณวัดสะตือ จนถึงตลาดท่าเรือ ตลอดระยะทาง 5.2 กิโลเมตร โดยมีประชาชนในพื้นที่ต่างยิ้มแย้ม โบกมือ ตะโกน พร้อมให้กำลังใจ มอบดอกกุหลาบแก่ว่าที่ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐตลอดทั้งสองข้างทาง

พลังประชารัฐ

นายสันติกล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ส่งว่าที่ผู้สมัครมารับใช้ชาวพระนครศรีอยุธยา 3 คน ก็ต้องของฝากให้พิจารณาผู้สมัครของเราด้วย เพื่อที่จะไปยกมือผลักดันให้มีการแต่งตั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

นายสันติ กล่าวต่อถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่จะมีการประกาศต่อไปก็คือ การเพิ่มศักยภาพความสามารถ ให้กับลูกหลานคนไทย เพราะขณะนี้นวัตกรรมโลกมันไปไกลมากแล้ว ถ้าเราจะทำการศึกษาเดิม ๆ เหมือน 200 ปีที่ผ่านมา เราก็จะตามไม่ทันโลก

ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเยาวชนของเราที่เพิ่งจะจบการศึกษามา แทบจะไม่มีงานทำ หรือไม่สามารถที่จะทำเงินได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด และน่าเป็นห่วงของประเทศชาติ ดังนั้น พรรคพลังประชารัญจึงมีนโยบายให้ทุกโรงเรียนสอนภาษาที่สอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่น ตั้งแต่ชั้นอนุบาล เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชน

นายสันติกล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้เน้นย้ำถึงเรื่องการดูแลพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ากระทรวงการคลังได้เป็นผู้ดำเนินการโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ บัตรประชารัฐ

พลังประชารัฐ

ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็เป็นพรรคที่ได้คิด ดำริ ในเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งหัวหน้าพรรคของเราก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของเงินในบัตรที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ จึงได้ออกมาเป็นนโยบาย 700 บาท

“สำหรับบัตรสวัสดิการประชารัฐ มุ่งทำมาเพื่อดูแล ผู้มีรายได้น้อย คนชรา กลุ่มเปราะบาง โดยนโยบายทั้งหมด พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าจะทำทันที แต่ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องเลือกว่าที่ผู้สมัครของเราเข้าไปนั่งสภาฯ เพื่อสนับสนุนให้ ให้เป็นนายกฯคนที่ 30 และ หากได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมผลักดันนโยบายตามที่ประกาศไว้ในทุกด้าน ทั้งดูแลสุขอนามัย การศึกษา”

“โดยเน้นดูแลสตรีที่มีครรภ์ให้มีเงินสวัสดิการดูแลตั้งแต่เดือนที่ 5 และดูแลเด็กแรกเกิดไปจนถึง 6 ขวบ รวมถึง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)ส่งเสริมให้มีแพทย์ 2 คน เพื่อดูแลสุขภาพของชุมชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเดินทางไปโรงพยาบาล”นายสันติกล่าว

ด้านนายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐมาขอแนะนำว่าที่ตัวผู้สมัครจังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนพื้นที่ พร้อมทํางานแก้ปัญหาที่คั่งค้างให้กับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา มีทั้งพื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่อุตสาหกรรม มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ

เป็นสังคมที่มีหลายกลุ่มอาชีพ ซึ่งพรรคพร้อมเข้ามาดูแลทุกกลุ่ม และที่สำคัญต้องกำจัดการคอรัปชั่น ขจัดวงจรการทุจริต อะไรที่อยู่ใต้ดินก็ให้ขึ้นมาอยู่บนดินทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน

“พรรคพลังประชารัฐจะเข้ามาดูแลเพื่อให้จังหวัดอยุธยา พัฒนา และที่สําคัญคือ พรรคของเราจะเน้นสร้างการลงทุนในจังหวัดอยุธยามากขึ้น ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะทำให้การค้าขายรวมถึงเศรษฐกิจต่าง ๆ ดีขึ้น ผมเชื่อว่า คนรุ่นใหม่ที่เราคัดสรรมามีความมุ่งมั่นที่จะมาช่วยกันทํางานให้ชาวพระนครศรีอยุธยาอยู่ดีกินดีขึ้นอย่างแน่นอน”นายชัยวุฒิกล่าว