
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 แล้ว คาดว่าหลังจากนี้จะมีการประกาศวันเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2566 เร็ว ๆ นี้
วันที่ 20 มีนาคม 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทูลเกล้าฯ ร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2566 แล้ว คาดว่าจะลงประกาศราชกิจจานุเบกษาในวันนี้ (20 มี.ค.) และจะมีผลทันที
- มหาดไทยประกาศ ขอสละสัญชาติไทย 75 ราย แห่ไปขอถือสัญชาติสิงคโปร์
- ปลื้ม 4 มหาวิทยาลัยไทยติด TOP 100 ของโลกด้านความยั่งยืน
- บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1 มิ.ย.นี้ ใครมีสิทธิรับวงเงินค่าซื้อสินค้า 900 บาท
หากไทม์ไลน์เป็นไปตามที่รัฐบาลได้หารือกับคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) จะมีการเปิดรับสมัคร ส.ส.เป็นวันที่ 3-7 เม.ย.2566 และจัดการเลือกตั้ง 14 พ.ค. 2566 ซึ่ง กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งภายในกรอบเวลา 45-60 วัน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทั้งคณะจะต้องรักษาการจนกว่ามีครม.ชุดใหม่
ทั้งนี้ตามกรอบเวลา ข้อบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ การจัดการเลือกตั้ง 2566 จะเริ่มขึ้นเมื่อคณะกรรมการเลือกตั้ง ประกาศวันเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2566 หลังจากประกาศพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปแล้ว
โดนผู้ประสงค์จะลงสมัครรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง ระบบบัญชีรายชื่อ และระบบเขต ต้องสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภายใน 30 วัน
จากนั้น ภายใน 5 วัน นับจากวันประกาศยุบสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะออกประกาศวันเลือกตั้ง ส.ส. และวันเปิดรับสมัคร ส.ส. ทั้ง 2 ระบบ คือระบบเขต 400 เขตทั่วประเทศ และระบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งยื่นบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี
วันเปิดรับสมัคร ส.ส. อาจจะเป็นวันที่ 3-7 เม.ย. 2566 สำหรับวันเลือกตั้งทั่วไป อาจจะเป็น วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. 2566 เลือกตั้งล่วงหน้าก่อน 1 สัปดาห์ คาดว่าเป็นวันที่ 7 พ.ค. 2566 เป็นไปตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ กกต.ต้องจัดการเลือกตั้งภายในกรอบเวลา 45-60 วัน ส่วนคณะรัฐมนตรี ต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ
อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรี ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ แต่ต้องดำเนินการ-และไม่ต้องดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้
1.ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป เว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี
2.ไม่แต่งตั้งหรือโยกย้ายข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการที่รัฐถือหุ้นใหญ่ หรือให้บุคคลดังกล่าวพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่หรือพ้นจากตำแหน่ง หรือให้ผู้อื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน
3.ไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติให้ใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน
4.ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง และไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่คณะกรรมการเลือกตั้งกำหนด
สำหรับงบประมาณในการจัดการเลือกตั้งที่ คณะรัฐมนตรี อนุมัติวงเงินรวม 5,945 ล้านบาท