‘ธนาธร’หวั่น เลือกตั้งครั้งนี้โกงมากสุด ชี้ หากคสช.ชนะ ต้องอยู่กับคสช.ต่ออีก4-20ปี

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงการปลดล็อกตามคำสั่งคสช.ที่ 22/2561 ว่า ยังไงก็มีได้ความเปรียบ เสียเปรียบแน่นอน เพราะทั้งกฏกติกาการเลือกตั้ง อำนาจรัฐ กรรมการการเลือกตั้ง โน้มเอียงไปกับฝ่ายที่ถืออำนาจ แต่ไม่ว่า กติกาและสถานการณ์จะไม่เป็นธรรม แต่เราพร้อมสู้กับคสช.ที่เป็นทั้งกรรมการ ผู้เขียนกฏ และเป็นผู้เล่น จะชนะฝ่ายในเกมที่พวกสร้างขึ้น ต่อให้กกต.ยืนยันเรื่องบัตรเลือกตั้งที่ไม่มีชื่อ ไม่มีโลโก้ เราก็จะเล่นเกมนี้ แม้จะการแก้ปัญหาเรื่องบัตรเลือกตั้งจะมีความจำเป็น เพราะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดกับประชาชน และเอื้อให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้งได้ง่าย

แต่ตนไม่ขอยอมรับอำนาจม.44 เพราะเป็นอำนาจเผด็จการอย่างเบ็ดเสร็จ ดังนั้น เชื่อว่ากกต.จะมีวิจารณญาณที่ดีพอ และยืนอยู่เคียงข้างประชาชน และไม่คิดว่า หากกกต.มีเจตจำนงที่จะแก้ไขประเด็นนี้ จะไม่ส่งผลอะไรต่อการขยายเวลาการเลือกตั้งออกไป

“วันนี้ประชาชนต้องรับทราบว่า การเลือกตั้งคราวนี้มีโอกาสที่โกงกันมากที่สุดในประวัติกาล มีการโกงตั้งแต่สิทธิเสรีภาพประชาชน ใช้อำนาจและงบประมาณรัฐไปสนับสนุนพรรคหนึ่ง กว่าจะปลดล็อกก่อนการเลือกตั้งเพียงแต่ 70 วันเท่านั้น ถือเป็นเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ จะปล่อยให้ประชาชนแพ้ไม่ได้ ถ้าฝ่ายคสช.ชนะ ประเทศต้องอยู่กับระบอบคสช.ไปอย่างน้อย 4 -20 ปี ผลโพลของสถาบันพระปกเกล้าชี้ว่า คนร้อยละ 90 อยากใช้สิทธิเลือกตั้ง นี่สะท้อนว่า คนอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง เพราะเบื่อหน่ายกับสภาวะปัจจุบัน จึงอยากให้ประชาชนลุกขึ้นมาใช้สิทธิมากๆ ออกมาตัดสินและลงโทษคสช.ว่า พอกันที่กับเผด็จการคสช. หยุดยั่งการสืบถอดอำนาจให้ได้ ไม่เช่นนั้นต้องตกอยู่ในขุมนรกไปอีกอย่างน้อย 4 ปี” นายธนาธร กล่าว

และว่า ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพท.ยกผลโพลบอกว่า ฝ่ายประชาธิปไตยจะได้เกิน 300เสียงนั้น ที่ผ่านมา พรรคทำโพลของตัวเองตลอด และตรงกับที่สำนักอื่นๆสำรวจ ถ้ามีเลือกตั้งวันนี้ พรรคมีความนิยมอยู่ที่ 10-15% ซึ่งคิดเป็น 50-75 ที่นั่ง แต่อย่างไรก็ตาม ยังเหลืออีก 70 วันอะไรยังเกิดขึ้นได้ พรรคจะใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ที่สุด

เมื่อถามถึงข้อกรณีข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ว่า อนาคตใหม่พูดชัดมาตลอดว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย เราต้องการร่างใหม่ทั้งฉบับที่ประชาชนเป็นผู้เขียนเอง จึงอยากเรียกร้องอีกครั้งให้ทุกพรรคแสดงจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญให้ชัดว่า จะอยู่กับเผด็จการ หรืออยู่กับประชาชน ไม่ใช่ออกมาพูดว่า วันหนึ่ง แก้รายมาตรา อีกวันพูดว่า แก้ทั้งฉบับ อีกวันบอกว่า แก้แล้วจะนำไปสู่ความขัดแย้ง คนที่พูดแบบนี้ถือว่า เป็นกลุ่มคนที่ต้องการให้เกิดความขัดแย้ง ต้องการหาเรื่อง เพราะเมื่อประชาชนขัดแย้งกัน จะเป็นอาหารอันโอชะให้แก่เผด็จการ แต่ถ้าประชาชนสามัคคีเราจะทำเรื่องนี้ได้

ที่ผ่านมาสังคมเคยทำสำเร็จมาแล้วในปี 2540 ตนมองไม่เห็นว่า วันที่ประชาชนทุกสาขาอาชีพร่วมมือเป็นหนึ่งเดียวแล้วจะทำเรื่องนี้ไม่ได้ อะไรที่ไม่ถูกต้อง ไม่ต้องกลัวว่า จะนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะกลุ่มคนที่ต้องการให้ทหารมีอำนาจเหนือนักการเมืองที่มาจากประชาชนย่อมไม่ต้องการให้รัฐธรรมนูญนี้ถูกแก้ไข จึงอยากให้ประชาชนดูและตัดสินว่า เมื่อประชาชนทุกฝ่ายรวมตัวกันเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ คนกลุ่มไหนจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อก่อให้เกิดความขัดแย้ง

 

ที่มา มติชนออนไลน์