นายพิชิต ชื่นบาน ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า เท่าที่ตนได้ศึกษา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ระเบียบและประกาศของ กกต.ทั้งหมดรวม 10 ฉบับ ที่ออกมาบังคับใช้กับพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว เห็นว่าแม้แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายและระเบียบในฐานะผู้ปฏิบัติงานเลือกตั้งเอง ก็จำเป็นต้องศึกษาระเบียบที่ออกมาให้เข้าใจอย่างละเอียดลึกซึ้งเช่นกัน ดังนั้น จึงเป็นการยากมากที่พรรคการเมือง นักการเมือง ประชาชนโดยทั่วไป และผู้เกี่ยวข้องจะสามารถศึกษาเรื่องเหล่านี้ได้ ในระยะเวลาสั้นๆ
นายพิชิต กล่าวว่า เช่น ระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 กำหนดวิธีการหาเสียงการเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ว่า ผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดแล้วแต่กรณีสามารถใช้วิธีการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตนเอง หรือมอบหรือว่าจ้างบุคคลหรือนิติบุคคลดำเนินการแทนได้ ขอบเขตของระเบียบดังกล่าวจึงตีความได้กว้างมาก เช่น การจ้างประชาสัมพันธ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ มีเทคนิค วิธีการ ช่องทางและค่าใช้จ่ายมากน้อยต่างกัน ถ้าผู้สมัครคนใดสามารถเชื่อมโยงกับผู้ประกอบธุรกิจด้านการสื่อสารหรือผู้ที่บังคับใช้กฎหมายได้ย่อมได้เปรียบกว่านักการเมืองที่ไม่รู้จักกับผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว นอกจากนี้ ยังอาจก่อให้เกิดการละเมิดต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการเสนอความคิดเห็นที่สุ่มเสียงต่อความผิดตามกฎหมายเลือกตั้งทั้งที่ประชาชนมีเจตนานำเสนอความคิดเห็นโดยสุจริต
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
นายพิชิต กล่าวว่า หรือแม้กระทั่ง ระเบียบเกี่ยวกับการร้องเรียนและไต่สวนที่จะต้องนำมาบังคับใช้จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร สาเหตุหลักจึงเกิดจากการที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 หรือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ได้เปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายของประเทศ ตามความต้องการของคนส่วนน้อยที่ยังไม่อาจเติมเต็มด้านความรู้ความสามารถตลอดจนขาดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อขั้นตอน วิธีการ และความเป็นจริงในทางการปฏิบัติงานเลือกตั้ง จึงทำให้มีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าความพร้อมและกำลังคนที่มีอยู่จะสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามระยะเวลาที่กฎหมายบัญญัติได้อย่างสมบูรณ์ เช่น กระบวนการรับสมัครสมาชิกพรรค การจัดตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และการสรรหาผู้สมัคร มีขั้นตอนบังคับให้ต้องรายงานต่อนายทะเบียนพรรคตามระยะเวลาที่กำหนด และมีขั้นตอนการประชุมรับฟังความคิดเห็นและการลงมติที่ยุ่งยาก จนทำให้ผู้ปฏิบัติงานแต่ละพรรคใช้วิธีการที่แตกต่างกันจึงไม่มีมาตรฐานเดียวกันจนอาจนำไปสู่การกระทำผิดตามกฎหมายได้โดยง่าย
“ดังนั้น เมื่อเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง สมควรอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไขบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และระเบียบที่เป็นอุปสรรคจนทำให้การเลือกตั้งขาดประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดการเตรียมความพร้อม ในการจัดการเลือกตั้งแต่เนิ่นๆ ให้ผู้เกี่ยวข้องทุกระดับ มีความรู้ความเข้าใจเรื่องกฎหมาย ระเบียบ และแนวทางในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งไปในทิศทางเดียวกัน” นายพิชิต กล่าว
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!