“บิ๊กตู่” ปลื้ม ไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบินนับ 1 มอบ “บิ๊กป๊อก” รับงานหินส่งมอบพื้นที่

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อวันที่ 24 ต.ค.62 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในฐานะประธานในพิธีลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัทรถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด (กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร มูลค่าการลงทุน 2.2 แสนล้านบาท ว่า ดีใจกับความก้าวหน้าโครงการฯในครั้งนี้ ภายหลังทำงานมาโดยตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การลงนามในสัญญาครั้งถือว่าเป็นการนับ 1 เพื่อเริ่มก่อสร้าง โดยมีหลายฝ่ายร่วมมือกัน ซึ่งประโยชน์ที่เกิดขึ้นไม่เฉพาะเพียง 3 สนามบิน แต่จะเชื่อมต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนด้วย หรือ ด้านตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศอื่นด้วย เพราะฉะนั้นต้องมองในภาพรวมด้วย เบื้องต้นเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชนประมาณ 2 แสนล้านบาท

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เราจำเป็นต้องพัฒนาประเทศไทยทั้งทางบก รถไฟความเร็วสูง ทางอากาศเพิ่มเติม รวมถึงท่าเรือแหลมฉบับและมาบตาพุด ทั้งหมดเพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพและวางรากฐานไปสู่อนาคต ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง 3 ประเทศร่วมกัน ได้แก่ ไทย จีนและญี่ปุ่น ซึ่งวันนี้มีอิตาลีมาร่วมด้วยในเรื่องของการเดินรถ เพราะเป็นการลงทุนในรูปแบบระหว่างภาครัฐกับเอกชน Public-Private-Partnership : PPP เป็นการลงทุนรูปแบบใหม่และมีกฎหมายรองรับ

“โครงการนี้เป็นโครงการร่วมลงทุน 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีนและญี่ปุ่น ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีการลงทุนในลักษณะนี้ หรือ เรียกว่าความร่วมมือไตรภาคี ซึ่งในวันข้างหน้าจะเกิดโครงการในลักษณะนี้ ซึ่งตนได้เสนอไปยังหลาย ๆ ประเทศว่าเรามีการร่วมลงทุนในลักษณะนี้ เพื่อการลงทุนในวันหน้าจะได้ไม่มีปัญหาซึ่งกันและกัน เพราะการลงทุนไตรภาคีจะทำให้เกิดความเชื่อมั่น เชื่อถือและมีเสถียรภาพ”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ขอให้เชื่อมั่นและไว้วางใจว่า เราเดินหน้ามาถึงวันนี้ได้ ถือเป็นการเดินก้าวที่หนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนสนับสนุนให้เราเดินก้าวที่สองได้

“การก่อสร้างยังเป็นไปตามสัญญา ซึ่งได้หาทางออกไว้หมดแล้ว กรณีความร่วมมือของภาครัฐเพราะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เช่น เรื่องการส่งมอบพื้นที่ที่มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานตามแนวเส้นทางโครงการ ฯ ซึ่งจำเป็นต้องแก้ปัญหาในฐานะที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล ซึ่งได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้วโดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นแม่งานเพื่อประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ผลงานในครั้งนี้ ถือว่าเป็นผลงานของรัฐบาลที่แล้วและรัฐบาลนี้ รัฐบาลที่แล้วเริ่มต้นมาแต่ยังไม่จบ ยังเซ็นสัญญาไม่ได้ จนถึงรัฐบาลนี้ก็สืบสานงานนี้ต่อเนื่องจนกระทั่งสามารถลงนามในสัญญาโครงการได้ในวันนี้ ความมุ่งหมายของเราคือการมองอนาคตไปข้างหน้า จึงจำเป็นต้องมีรายได้เพิ่ม อาจจะไม่เร็วนักเพราะต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง แต่สิ่งสำคัญเมื่อสำเร็จแล้วจะทำให้เกิดขึ้นหลายอย่างด้วยกัน โดยเฉพาะการมีผลต่อเศรษฐกิจ การจ้างงาน การขยายเมืองใหม่ การเพิ่มพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ อย่างไรก็ต้องลดผลกระทบที่มีต่อประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวด้วย เพราะทุกสถานีที่จอดมีโอกาสที่จะเติบโตทั้งสิ้น โดยการทำระบบคมนาคมเชื่อมระบบเข้ามา เช่น ถนน ราง เพื่อเปิดเส้นทางใหม่เข้ามาในพื้นที่ภาคตะวันออก รวมทั้ง-ภาคกลางด้วย

“จุดนี้เชื่อมต่อทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ เพราะฉะนั้นสินค้าต่าง ๆ ก็จะมาในระบบโลจิสติกส์ของเราตรงนี้ เช่น รถไฟทางคู่ รถไฟขนส่งสินค้า หรือเครื่องบิน ซึ่งเป็นอนาคตของเรา ไม่ต้องห่วงรัฐบาลจะขับเคลื่อนให้ได้”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตบท้ายว่า วันนี้ต้องขอขอบคุณภาครัฐ ทั้งกระทรวงมหาดไทย คมนาคม วันนี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วมาในการริเริ่มโครงการฯ