เรืองไกร ร้อง กกต.ยุบ “เพื่อไทย” ตั้ง “หมอเลี้ยบ” นั่ง ผอ.พรรค ชี้ผิดทั้งข้อบังคับพรรค ฝ่าฝืน พ.ร.ป. พรรคการเมือง ต้องยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.พรรค
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ยื่นหนังสือร้องต่อกกต.เพื่อให้ตรวจสอบกรณี นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ว่าเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ จะเป็นเหตุให้ยุบพรรคหรือไม่
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
เนื่องจากข้อบังคับพรรคเพื่อไทย ข้อ 70 หัวหน้าพรรค คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ชุดก่อนหน้านี้สามารถตั้งสมาชิกพรรค เป็นผู้อำนวยการพรรคได้ ซึ่งต้องรายงานให้คณะกรรมการบริหารพรรคทราบ แต่บุคคลที่ห้ามสมัครเป็นสมาชิก ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 98 เช่น (9) บุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกและพ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี หรือ (12) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ดังนั้นนายสุรพงษ์จึงน่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือ ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย จะถือเป็นคนอื่นหรือผู้ใดที่มิใช่สมาชิกซึ่งจะเป็นการกระทำฝ่าฝืนตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 หรือ มาตรา 29 หรือไม่นั้น จะถือเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคเพื่อไทย และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคทั้งชุดเดิมและชุดใหม่ตาม มาตรา 92 และ กกต. ต้องดำเนินคดีอาญาตาม มาตรา 108
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า จากการพิจารณาพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำหนดว่าสมาชิกพรรคการเมืองต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 98 ดังนั้น จึงมีความเกี่ยวโยงกับกรณี นพ.สุรพงษ์ ไม่สามารถสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ตั้งแต่ต้น เพราะข้อบังคับพรรคเพื่อไทยบอกว่า ตำแหน่ง ผอ.พรรคต้องตั้งจากสมาชิกพรรคพรรคการเมือง ซึ่งแทบทุกพรรคการเมืองก็เอากฎหมายมาตรา 98 มาเขียนไว้ในข้อบังคับพรรค ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย ก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคเสรีรวมไทย ต้องเอาอันนี้บัญญัติเพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญบังคับไว้ว่าต้องเขียนไว้ในข้อบังคับพรรค
“วันนี้เราเอาข้อบังคับพรรคของพรรคเพื่อไทยมาถาม ว่าท่านไม่ดูเหรอ ท่านตั้งเขาไปได้อย่างไร และการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยที่ขอนแก่นเมื่อ 28 ตุลาคม หมอเลี๊ยบ เป็นคนแรกขึ้นเวทีปราศรัยในตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย พูดไปตั้ง 3 ชั่วโมงกว่า จากการไล่ดูคลิปมันสุ่มเสี่ยง ไม่ใช่ผมเห็นแล้ว บอกว่าจะให้ผมทำยังไง คุณจะเจรจากับผมมั้ยนั่นไม่ใช่เรื่องของผมและผมไม่เคยทำอย่างนั้น ผมมีหน้าที่มาร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องผิดถูกก็เป็นเรื่องของท่านต้องมาชี้แจง” นายเรืองไกร กล่าว
นายเรืองไกร กล่าวว่า ตนมาชี้ช่องให้ กกต.ดูว่ามีหลักฐานชัดเจน โดยดาวน์โหลดคลิปความยาว 3 ชั่วโมง ซึ่งอยู่หน้าเว็บพรรคเพื่อไทยทั้งวันที่ 28 ตุลาคมและวันที่ 3 พฤศจิกายน ในเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย ยังได้นำบทความของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยมาลงไว้ อันทำให้เข้าใจได้ว่า นพ.สุรพงษ์ ยังคงเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยต่อมาจนถึงปัจจุบัน พยานหลักฐานมีเพียงพอที่จะเชื่อได้หรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดจากการกระทำของพรรคเพื่อไทยเอง ไม่ใช่ว่าใครอยากร้องอะไรก็มาร้อง