การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) และสมาชิกสภา กทม. (ส.ก.) ได้บทสรุปไปแล้ว หลังจากไม่มีการเลือกตั้งมาแล้ว 9 ปี
ที่ 1 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 8 ในนามอิสระ “นอนมา” ได้คะแนน “ทะลุล้าน” ทิ้งห่าง “คู่แข่ง” หลายช่วงตัว
- ทุเรียนทะลักวันละพันตู้ ล้งเบรกซื้อ ฉุดราคาดิ่งเหลือโลละ 135-140 บาท
- เช็กที่นี่ เบี้ยผู้สูงอายุ พฤษภาคม 2567 เงินเข้าวันไหน
- นายกฯ โทรเบรก-ระงับใบลากฤษฎา เตรียมแบ่งงานคลังใหม่
การลุ้นคะแนน อันดับที่ 2 ระหว่าง ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ กับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัคร ผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 จากค่ายก้าวไกล จึงเข้มข้น-เร้าใจ หลังจากเบียดกันมาคู่คี่-สูสี พลิกไปพลิกมา
ผลปรากฏ ดร.เอ้ สุชัชวีร์ ชนะเฉียดฉิว ด้วยคะแนน 254,723 คะแนน ต่อ 253,938 คะแนน ห่างกันเพียง 785 คะแนน เข้าป้ายเป็น “อันดับสอง” ขณะที่ วิโรจน์ หล่นลงไปเป็นอันดับสาม
“องอาจ คล้ามไพบูลย์” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับผิดชอบพื้นที่ กทม. วิเคราะห์หลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก. ว่าพี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ ยัง “ให้โอกาสประชาธิปัตย์” เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้คะแนนเป็นอันดับที่สอง
ขณะเดียวกันการเลือก ส.ก. ได้มาถึง 9 เขต ได้แก่ คลองสาน บางกอกใหญ่ บางกอกน้อย บางขุนเทียน บางบอน บางพลัด ประเวศ ป้อมปราบศัตรูพ่าย และสัมพันธวงศ์
“ถ้าเปรียบเทียบกับการเลือกตั้ง ส.ส. กทม. เมื่อปี’62 ที่ประชาธิปัตย์ไม่ได้เลย ก็ต้องถือว่า ประชาชนให้โอกาสประชาธิปัตย์ได้ทำงานรับใช้พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ต่อไป”
เมื่อเทียบกับการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี’62 ประชาธิปัตย์ได้คะแนนรวมกว่า 4.2 แสนคะแนน ทว่าคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ดร.เอ้-สุชัชวีร์ ได้เพียง 2.5 แสนคะแนน เขาเห็นแย้งว่า ไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกันได้
“อดีต ส.ส.กทม. เขตบางกอกน้อย” บอกว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็คือ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. การเลือกตั้ง ส.ส. ก็คือ การเลือกตั้ง ส.ส. เจตจำนงในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งแตกต่างกัน
“พี่น้องประชาชนในกรุงเทพฯ เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เสียงส่วนมากแสวงหาบุคคลที่มีความเหมาะสมที่สุดในขณะที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งในปีนั้น ๆ ในสมัยนั้น ๆ ซึ่งมีปัจจัย มีเงื่อนไขในการมาประกอบการตัดสินใจที่แตกต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมีปัจจัย มีเงื่อนไขที่แตกต่างออกไปอีกลักษณะหนึ่ง มีปัจจัยเงื่อนไขในระดับชาติเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นหลัก”
“องอาจ” ยังมองไม่ออก-ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่า การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้า ในอีก 7-8 เดือนนับจากนี้ คนกรุงเทพฯ จะใช้ปัจจัยอะไรในการเลือก ส.ส. เพราะยังไม่รู้ว่า ผู้สมัครจะเป็นใคร นโยบายของแต่ละพรรคคืออะไร
เอฟเฟ็กต์ของ ดร.เอ้-สุชัชวีร์ ที่เข้าป้ายเป็นอันดับสอง เป็นการส่งสัญญาณว่า ประชาธิปัตย์กลับมาเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในสนามการเมือง กทม.เต็มตัว หลังการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี’62 ได้ “ศูนย์ที่นั่ง”
“ประชาธิปัตย์อยู่ในสนามการเมืองใน กทม.อยู่แล้ว เพียงแต่ผลการเลือกตั้งแต่ละครั้งที่ออกมาก็แตกต่างกันออกไปเท่านั้นเอง ประชาธิปัตย์ไม่ได้ทิ้งสนามการเมือง กทม.ไปไหน เรายังทำงานการเมือง ทำงานเพื่อประโยชน์ของพี่น้องในกรุงเทพฯ ในเกือบทุกระดับอย่างต่อเนื่องตลอดมาในทุกสถานการณ์ ฉะนั้นประชาธิปัตย์ยังคงเดินหน้ามุ่งมั่น ตั้งใจทำงานต่อไป”
การเลือกตั้ง ส.ส. ปี’62 ประชาธิปัตย์ไล่หลังคู่แข่งอย่างพรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกล และพรรคพลังประชารัฐ รั้งอยู่อันดับที่ 3-อันดับที่ 4 ในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า แต่ “องอาจ” ขอสงวนท่าที ไม่ขอเปิดศึก
“ต้องดูวันที่มีการสมัครรับเลือกตั้งก่อน เช่น มีพรรคไหนส่งลงสมัครแข่งบ้าง ผู้สมัครเป็นใคร นโยบายของพรรคเป็นอย่างไร คงต้องไปดูตอนนั้นก่อน ถึงจะมองเห็นชัดเจนมากขึ้น มากกว่าการมองในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่มีความชัดเจน”
“องอาจ” เตรียมสรุปบทเรียนจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก. เพื่อนำไปสู่การปรับทัพเพื่อเตรียมสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งหน้า โดยการนำข้อมูลการงานช่วงที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลาการรณรงค์หาเสียง ว่ามี “จุดเด่น” และ “จุดด้อย” อะไรที่ประชาธิปัตย์จะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
“เรื่องใดที่ทำแล้วได้ผลดีก็ต้องพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ส่วนอันไหนที่ควรปรับปรุงแก้ไขเราก็คงต้องมาหาวิธีการที่เหมาะสมในการปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การทำงานโดยรวมสามารถทำประโยชน์ให้กับพี่น้องกรุงเทพฯ ได้มากยิ่งขึ้น สามารถตอบโจทย์ความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อที่คนกรุงเทพฯจะได้สนับสนุนให้ประชาธิปัตย์ได้ทำงานต่อไป” องอาจตบท้าย
ขณะที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏร์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประเมินในทางบวกเช่นเดียวกันว่า พี่น้องชาวกรุงเทพฯ ยังให้โอกาสกับประชาธิปัตย์ และทุกคะแนนเสียงมีความหมายและมีความสำคัญอย่างยิ่งกับประชาธิปัตย์
“ต้องยอมรับว่า หลังการเลือกตั้งทั่วไป ประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเลือกตั้งเลยใน กทม. แต่ผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้ ประชาธิปัตย์มาเป็นอันดับสอง และ ส.ก. ได้ถึง 9 คน”
“จุรินทร์” วิเคราะห์ภาพสะท้อนไปถึงการเลือกตั้งระดับชาติว่า เป็นคำตอบหนึ่งสำหรับในสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นคำตอบหนึ่งของการเลือกตั้งท้องถิ่น กทม. แต่จะมีผลกระทบมากน้อยแค่ไหนในระดับประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ยังไม่สามารถตอบได้ และยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้