ประยุทธ์ โพสต์เฟซระหว่างศึกอภิปราย ขอ ส.ส.ละทิ้งทิฐิ ปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ

ที่รัฐสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่รัฐสภา ในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2565 PHOTO : THAI ROYAL GOVERNMENT/

ประยุทธ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระหว่างศึกซักฟอก ชวน ส.ส. ทุกคนปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ ยึดหลัก 3 ดี หลักการดี ข้อมูลดี และน้ำใจดี ระหว่างศึกอภิปราย

วันที่ 19 กรกฎาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กแฟนเพจระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกว่า ช่วงวันที่ 19-23 ก.ค.นี้ มีภารกิจเข้าร่วมชี้แจงข้อเท็จจริง ตามญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ที่สัปปายะสภาสถาน (รัฐสภาแห่งใหม่) ที่หมายถึง สถานที่ประกอบกรรมดี ซึ่งการขึ้นอภิปรายของผมในช่วงเช้านี้ มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย

1. ขอให้ช่วยกันขบคิด ถกแถลง ทำหน้าที่ตนให้ดีที่สุด ทั้งฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ แก้ปัญหาไปด้วยกัน ละทิ้งทิฐิ อคติส่วนตน นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง

2. ช่วงวิกฤตโควิด 2 ปีที่ผ่านมา เราแก้ปัญหาไปได้ด้วยดี ทำงานแบบบูรณาการ เป็นตัวอย่างที่ดีให้หลายประเทศ จนสามารถเปิดประเทศได้มากขึ้นตามลำดับ ระบบเศรษฐกิจดีขึ้น โดยตัวเลขในด้านการท่องเที่ยวก็ดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวจากครึ่งปีที่ผ่านมา 2.2 ล้านคน เกิดรายได้ 1.25 ล้านบาท ไทยเที่ยวไทย 67.8 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจทุกระดับ หลายรอบ มากกว่า 4.3 แสนล้านบาท

3. ประเทศในปี 2524 ยุคโชติช่วงชัชวาล จากการค้นพบแหล่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย แล้วขยายผลเป็นนิคมอุตสาหกรรม ท่าเรือน้ำลึก และโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด ต่อมาปี 2531 ไทยขับเคลื่อนด้วยนโยบาย “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า”

มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก เปลี่ยนจาก Analogue สู่ Digital เป็นต้น เป็นยุคที่ไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด แต่น่าเสียดาย เพราะไม่มีนโยบายที่โดดเด่นมากพอ และ 10 กว่าปีมาแล้วที่มีแต่ความขัดแย้ง จึงไปไม่ถึงจุดหมาย

4. เมื่อผมเข้ามาบริหารประเทศ จึงต้องการพลิกโฉมประเทศไทย โดยผลักดัน 3 เรื่องสำคัญ (1) ประกาศวิสัยทัศน์ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” (2) ผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และปฏิรูปในทุกมิติ (3) ขับเคลื่อนนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” เพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ไปสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม พร้อมทั้งส่งเสริม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และสร้างเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้เป็นพื้นที่การลงทุนใหม่ ๆ บ่มเพาะทรัพยากรมนุษย์ยุคใหม่ ๆ และเป็นศูนย์กลางการขับเคลื่อนความเจริญประเทศในระยะต่อไป

“ผมขอเชิญชวนทุกคนร่วมปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติในครั้งนี้ โดยยึดหลัก ‘3 ดี’ ประกอบด้วย ‘หลักการดี’ คือ พูดจากันด้วยหลักวิชาการ หลักเหตุและผล ปราศจากการถูกครอบงำ ‘ข้อมูลดี’ คือ นำเสนอด้วยหลักฐาน ความจริง ที่ผ่านการตรวจสอบและกลั่นกรองมาแล้ว และ ‘น้ำใจดี’ คือ มอบความจริงใจต่อกัน ไม่แบ่งเขา ไม่แบ่งใคร เพราะเราคนไทยด้วยกัน หากมีน้ำใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน งานทุกอย่างก็จะราบรื่น” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว