“ช.การช่าง” ผนึกกำลัง 3 บริษัทลูกประมูลโปรเจ็กต์รัฐครบวงจร

แฟ้มภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข่าว

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า “ผลประกอบการ ณ สิ้นปี 2560 คาดว่ารายได้ก่อสร้างของบริษัทจะเป็นไปตามเป้าที่ได้ตั้งไว้ คือ 35,000 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นอยู่ในระดับประมาณ 8% บริษัทมีความพร้อมจะลงทุนโครงการขนาดใหญ่ได้อย่างต่อเนื่อง ณ ปัจจุบันสัดส่วนหนี้สินต่อทุนสุทธิ (Net D/E) อยู่ในระดับ 1.35 เท่า

นายปลิวยืนยันว่า ในปี 2561 CK พร้อมที่จะเข้าประมูลงานก่อสร้างตามนโยบายภาครัฐในทุกโครงการอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าปีนี้ภาครัฐจะเปิดโครงการประมูลกว่า 4 แสนล้านบาท โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ มูลค่า 1.30 แสนล้านบาท โครงการทางด่วนพระราม 3 – ดาวคะนอง มูลค่า 3.10 หมื่นล้านบาท โครงการรถไฟทางคู่ เฟส 2 จำนวน 9 เส้นทาง มูลค่ารวมประมาณ 4.00 แสนล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการมอเตอร์เวย์ บางปะอิน – นครราชสีมา ค่าตอบแทนเอกชนมูลค่า 3.30 หมื่นล้านบาทและบางใหญ่-กาญจนบุรี ค่าตอบแทนเอกชนมูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะผลักดันโครงการออกมาในลักษณะให้เอกชนร่วมลงทุน (PPP) ซึ่งทาง CK และ BEM ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ด้านโครงการในต่างประเทศคาดว่าจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ใน สปป.ลาว ซึ่งทาง CKP คาดว่าจะมีความคืบหน้าออกมาในกลางปี 2561 และการงานก่อสร้างระบบประปาในเมียนมา ซึ่งทาง TTW ได้เจรจากับรัฐบาลเมียนมาเรียบร้อยแล้วด้วย

“จากผลการประมูลในอดีตบริษัทมี Winning rate ประมาณ 50% สำหรับงานรถไฟฟ้าช่วงใต้ดิน 20-25% สำหรับงานรถไฟฟ้าโครงสร้างยกระดับและทางด่วน ซึ่งงานเหล่านี้บริษัทมีความเชี่ยวชาญ สามารถบริหารจัดการด้านการก่อสร้าง การเงิน และดูแลผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากโครงการที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ EEC ที่รัฐบาลจะผลักดันออกมาในเร็วๆ นี้ ทั้งรูปแบบที่ให้เอกชนเข้าประมูล และรูปแบบความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนหรือ PPP CK และบริษัทในกลุ่มทั้งหมดได้เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลอย่างแน่นอน โดยขณะนี้โครงการก่อสร้างในประเทศยังเป็นเป้าหมายหลักของ CK และเรายังได้เตรียมความพร้อมด้านเทคโนโลยี วิศวกรรมและการก่อสร้าง การพัฒนาบุคลากร การเงิน และการเตรียมความพร้อมระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันเพื่อรองรับโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต” นายปลิวกล่าว

​นายปลิวยังกล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่รัฐบาลประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากทางบริษัทเจรจากับผู้รับเหมาช่วงเรียบร้อยแล้ว ขณะที่งานใหม่ที่จะเข้าร่วมประมูลก็ได้คำนวณราคาต้นทุนใหม่ก่อนเสนอทุกโครงการ

“ทาง CK มีทีมคอยติดตามและเฝ้าระวังเรื่องราคาวัสดุอย่างใกล้ชิด มีการบริหารจัดการวัสดุทั้งในเรื่องราคาและสินค้าคงคลังอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผลกระทบจากราคาวัสดุ ณ ตอนนี้ยังสามารถควบคุมและบริหารจัดการได้ ในด้านแรงงาน ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบอะไร เราถือว่าคนของเราเป็นแรงงานที่มีฝีมือ เราดูแลคนงานของเราอย่างเต็มที่มาตลอด”

สำหรับการร่วมงานกับบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี นั้นมีความคืบหน้าเรียบร้อยเป็นอย่างดี ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการทำโครงสร้างฐานราก อาทิ การปรับพื้นดินและตอกเสาเข็ม การส่งมอบพื้นก็ได้เกือบครบ 100% แล้ว ไม่มีปัญหาใด ๆ ที่สร้างผลกระทบให้เกิดความล่าช้า