สิ้นปีนั่ง “รถเมล์” เข้าถึงทุกสนามบิน บูมเส้นทางท่องเที่ยวทั่วทิศทั่วไทย

เมื่อการท่องเที่ยวกลายเป็นดาวเด่นการสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย จึงทำให้รัฐบาลทหารหันมาโหมโปรโมตการท่องเที่ยวของไทยให้มากขึ้น จากเมืองหลักกำลังขยายสู่ 55 จังหวัดเมืองรอง พร้อมเร่งเสริมโครงข่ายการเดินทางให้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น

หนึ่งในนั้นคือการจัดระบบขนส่งรถโดยสารสาธารณะรับคนจากสนามบินไปสู่ชุมชนท่องเที่ยวต่าง ๆ ในรูปแบบ one transport ลงจากเครื่องบินสามารถนั่งรถโดยสารเข้าเมืองได้สะดวก

ล่าสุด “ขบ.-กรมการขนส่งทางบก” กำลังขะมักเขม้นจัดเส้นทางรถเมล์วิ่งบริการถึงประตูอาคารผู้โดยสารของทุกสนามบินภายในปี 2561 นี้

“สนิท พรหมวงศ์” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมร่วมกับผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ เปิดให้บริการเส้นทางเข้าสู่สนามบินแล้ว 22 แห่ง จากปัจจุบันประเทศไทยมีสนามบินพาณิชย์ทั้งหมด 34 แห่งภายใต้การกำกับดูแลของ 4 หน่วยงาน ได้แก่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. 6 แห่ง, กรมท่าอากาศยาน 24 แห่ง, บจ.การบินกรุงเทพ 3 แห่ง และกองทัพเรือ 1 แห่ง

ล่าสุด วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา เปิดบริการรถโดยสารเข้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างพิจารณาผู้ประกอบการขนส่งที่มีความพร้อมเข้าให้บริการ จะดำเนินการครอบคลุมครบทุกสนามบินในปี 2561

“เป็นการสร้างมิติใหม่ในการเดินทาง เพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสาร มิติแรกในปี”61 จะมีรถเมล์วิ่งถึงทุกสนามบิน มิติที่ 2 ยกระดับมาตรฐานตัวรถให้ได้มาตรฐาน และสุดท้ายเป็นมิติด้านการบริการที่ให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น โดยจะใช้ร่วมกับระบบตั๋วร่วมได้”

นายสนิทกล่าวว่าในเดือนมิ.ย.นี้เปิดบริการรถโดยสารเชื่อมสนามบินสมุย มี 1 เส้นทาง สาย 8312 ช่วงบ้านหน้าทอน-บ้านบ่อผุด-สนามบินเกาะสมุย (รถมินิบัส) ดำเนินการโดยสหกรณ์เดินรถเกาะสมุย อยู่ระหว่างจัดหารถ ส่วนสนามบินสุราษฎร์ธานีเริ่มเดินรถแล้ว มี 1 เส้นทาง สาย 8244 ท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี – ดอนสัก-เกาะสมุย หจก.สมุยทัวร์แอนด์ทรานสปอร์ต เป็นผู้ดำเนินการ

สนามบินนครศรีธรรมราช มี 2 เส้นทาง โดย บริษัทณิชาทัฬห์ จำกัด คือ สาย 7 ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช -แยกเบญจมราชูทิศ-สถานีขนส่งผู้โดยสาร และสาย 8 ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช-บ้านท่าแพ-สถานีขนส่งผู้โดยสาร อยู่ระหว่างจัดหารถ คาดว่าจะเริ่มเดินรถ มิ.ย.นี้ ขณะที่สนามบินตราด อยู่ระหว่างปรับปรุงเส้นทาง

สำหรับรถโดยสารที่จะให้บริการภายในสนามบินอู่ตะเภา เป็นรถโดยสารขนาดเล็กมาตรฐานใหม่ มีระบบความปลอดภัยครบครัน ติดตั้ง GPS tracking และอุปกรณ์แสดงผลความเร็ว มีระบบเบรก ABS และมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ขนาด 19 ที่นั่ง ต่อไปจะรองรับระบบ e-Ticket และตั๋วร่วม

มี 3 เส้นทาง เก็บค่าโดยสารตามระยะทาง ได้แก่ 1.สาย 398 ตราด-อู่ตะเภา โดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ จ.ตราด, จ.จันทบุรี, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยอง แห่งที่ 1, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 220 กม. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง 15 นาที ค่าโดยสารสูงสุด 130 บาท

2.สาย 399 ระยอง-อู่ตะเภา โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัด บี เอช ระยอง เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดระยอง แห่งที่ 2, อ.บ้านฉาง, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 35 กม. ใช้เวลาเดินทาง 33 นาที ค่าโดยสารสูงสุด 24 บาท

3.สาย 400 ชลบุรี-อู่ตะเภา โดยมีบริษัท สุวรรณภูมิบูรพา จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการ มีเส้นทางและสถานที่หยุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่ จ.ชลบุรี, อ.ศรีราชา, เมืองพัทยา, อ.สัตหีบ, ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา รวมระยะทาง 100 กม. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 34 นาที ค่าโดยสารสูงสุด 64 บาท

แต่ละเส้นทางมีรถบริการ 2-4 คัน โดยเที่ยววิ่งบริการจะสอดคล้องกับจำนวนเที่ยวบินของแต่ละวัน มีอยู่ประมาณ 40-50 เที่ยวบินต่อวัน คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้โดยสาร โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะเป็นเส้นทางช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก และยังเป็นจังหวัดในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อีกด้วย