“เจริญ”พลิกที่ดินอยุธยา2หมื่นไร่ ปั้นสปอร์ตแลนด์ครบวงจร

เจริญ สิริวัฒนภักดี(แฟ้มภาพ)

“เจ้าสัวเจริญ” ลุยปั้นพอร์ตที่ดินเมืองกรุงเก่า ส่งทีมลง อ.บางบาล-บางไทร เล็งพลิกทำเลริมเจ้าพระยา 2 หมื่นไร่ ผุดสปอร์ตแลนด์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ครบวงจร พ่วงศูนย์กระจายสินค้าโลจิสติกส์ multimodal transport เชื่อมการขนส่งทางรถยนต์-ระบบราง-ทางน้ำ

แหล่งข่าวจากกลุ่มทีซีซีกรุ๊ป บริษัทพัฒนาที่ดินของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากที่เจ้าสัวเจริญประกาศนโยบายให้บริษัทในกลุ่มทุกบริษัทพลิกกลยุทธ์ในการบริหารจัดการที่ดินให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งรองรับการบังคับใช้กฎหมายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพราะแม้รัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายจะชะลอการประกาศใช้ แต่หลังการเลือกตั้งอาจมีการผลักดันต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็เพื่อนำที่ดินที่มีอยู่ในมือจำนวนมากมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยการพัฒนาเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม

เจ้าสัวเจริญลุยอสังหาฯอยุธยา

ADVERTISMENT

ล่าสุด นอกจากร่วมลงขันร่วมกับกลุ่มตระกูลโสภณพนิช กับตระกูลวานิชบุตร เจ้าของสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ประมูลซื้อที่ดิน 4.3 พันไร่เศษ ของกลุ่มกฤษดามหานครเดิม ย่านบางนา-ตราด กม.32.5 วงเงินกว่า 8.9 พันล้านบาท จากกรมบังคับคดี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมาแล้ว ช่วงไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ทีมงานที่รับผิดชอบดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มเจ้าสัวเจริญ ได้เคลื่อนไหวลงสำรวจพื้นที่แถบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในทำเลสำคัญที่กลุ่มเจ้าสัวเจริญสะสมแลนด์แบงก์ไว้นับหมื่นไร่มีทั้งที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานเบียร์ (เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ 1991) แถบ อ.บางบาล ที่ดินแปลงที่นำมาพัฒนาเป็นตลาดต่อยอดศูนย์กลางค้าส่งแถบ ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน นอกจากนั้นยังมีที่ดินทำการเกษตร และที่ดินว่างเปล่าที่ยังไม่มีการใช้ประโยชน์อีกจำนวนมาก

พลิกที่ดินริมเจ้าพระยา 2 หมื่นไร่

เป้าหมายหลักเพื่อสำรวจและรวบรวมข้อมูลเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน เนื่องจากมีแผนจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บริเวณ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งปัจจุบันมีพอร์ตที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยาเนื้อที่ประมาณ 20,000 ไร่ เบื้องต้นมีแนวคิดจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการสปอร์ตแลนด์ รูปแบบโครงการจะเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์ครบวงจร ประกอบด้วยสนามแข่งขันกีฬาทั้งกลางแจ้งและในร่มหลากหลายประเภท

ADVERTISMENT

นอกจากนี้จะลงทุนก่อสร้างศูนย์ฝึกพัฒนาคนทางด้านการกีฬา กับที่พักอาศัยในรูปคอนโดมิเนียม สำหรับนักกีฬาพร้อมทีมผู้ฝึกสอน โค้ช ฯลฯ ขณะเดียวกันบริเวณดังกล่าวปัจจุบันมีการก่อสร้างสนามกอล์ฟ มาตรฐานระดับโลก ขนาด 18 หลุมอยู่แล้ว ส่วนโครงการที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ

“มีการพูดกันว่า จะมีการชักชวนราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์หรือสนามม้านางเลิ้ง ซึ่งกำลังมองหาที่ดินสำหรับพัฒนาเป็นสนามม้าแห่งใหม่ทดแทนสนามม้านางเลิ้ง ให้มาอยู่ตรงนี้ด้วย จะได้เป็นสปอร์ตแลนด์ครบวงจรในด้านกีฬาทุกด้าน เพราะหากเปรียบเทียบกับจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีสปอร์ตคอมเพล็กซ์ครบวงจร ถือว่าอยุธยาอยู่ใกล้กรุงเทพฯ การเดินทางไปมาสะดวกสบายกว่ามาก”

ADVERTISMENT

ปั้นเมกะโปรเจ็กต์โลจิสติกส์

แหล่งข่าวจากวงการโลจิสติกส์ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันกลุ่มนายเจริญมีอุตสาหกรรม ธุรกิจ และที่ดิน ใน “พระนครศรีอยุธยาค่อนข้างมาก ตั้งแต่โรงงานผลิตเบียร์ช้าง บริเวณริมน้ำ อ.บางบาล ของบริษัท เบียร์ทิพย์ บริวเวอรี่ (1991) จำกัด โรงงานเบียร์ อ.วังน้อย ของบริษัท คอสมอส บริวเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด, โรงงานผลิตปุ๋ยตรามงกุฎ ของบริษัท เทอราโกร เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ อ.นครหลวง และตลาดต่อยอดเออีซี เทรด เซนเตอร์ บริเวณถนนพหลโยธิน ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าส่ง จึงมีกระแสข่าววงในจากกลุ่มนายเจริญว่า ทางกลุ่มมีแผนที่จะสร้างศูนย์กระจายสินค้าโลจิสติกส์ขนาดใหญ่ เพื่อเชื่อมระบบคมนาคมขนส่งทางรถยนต์ รถไฟ และทางน้ำเข้าด้วยกัน ในลักษณะการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (multimodal transport) เพื่อรองรับความแออัดของท่าเรือกรุงเทพในอนาคต และการขนส่งทางน้ำถือเป็นการลดต้นทุนการขนส่งด้วย เนื่องจากกลุ่มนายเจริญมีที่ดินติดแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวนมาก รวมถึงพื้นที่บริเวณ ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน ไปตลอดถึง ต.เชียงรากน้อย บริเวณทางพิเศษสายอุดรรัถยา (โครงการทางด่วนสายบางพูน-บางไทร)

โดยเฉพาะทำเลที่ตั้งตลาดต่อยอดถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ เพราะอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเชียงรากน้อยไม่ถึง 10 กม. และอยู่ห่างจากสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) ไม่มาก นอกจากนี้ในอนาคตอยุธยายังอยู่ในแนวเส้นทางรถไฟความเร็วสูง หรือไฮสปีดเทรน ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันก่อสร้างด้วย

ตั้งบริษัทถือพอร์ตที่ดินกรุงเก่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจพบว่าช่วงปีเศษที่ผ่านมากลุ่มเจ้าสัวเจริญได้จัดตั้งบริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการให้เช่า และการดำเนินการเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์บริหารจัดการที่ดินที่อยู่ในมือ และบริษัทดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องใน จ.พระนครศรีอยุธยา อาทิ บจ.บางบาล กรุ๊ป บจ.บางบาล คอนกรีต บจ.บางบาลเดินรถ บจ.บางบาล พัฒนกิจ บจ.บางไทร ภูมิพัฒน์ จำนวน 25 บริษัท (บริษัท บางไทร ภูมิพัฒน์ 1-24) ถือหุ้นโดย 1.บจ.ทีซีซี ภูมิพัฒน์ 74.98% และ บจ.ทีซีซี แลนด์ 25% บจ.บางบาล พัฒนกิจ (1-8) จำนวน 9 บริษัท โดยมี บจ.ชลิตลาภ ถือหุ้น 100% ขณะเดียวกันชลิตลาภก็เป็นบริษัทลูกที่ บจ.ทีซีซี แลนด์ ถือหุ้น 100% เป็นต้น