ยืนมติขยายสัมปทาน 2 ทางด่วนให้ BEM 37 ปี สหภาพฯต่อรองเหลือ 30 ปี

แฟ้มภาพประกอบข่าว

นายกฤชเทพ สิมลี รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการระบบทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการรับทราบข้อเสนอจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การเจรจาร่วมกับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา แต่ประเด็นต่างๆ ที่หารือกันในที่ประชุมยังเปิดเผยไม่ได้ เพราะทุกประเด็นที่หารือกันยังเป็นความลับอยู่ ต้องให้ที่ประชุมในครั้งต่อไปมีมติยกให้ทุกเรื่องไม่เป็นความลับก่อน จึงจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ด้านนายสุชาติ ชลศักดิ์พิพัฒน์ ผู้ว่า กทพ. กล่าวว่า ในวันที่ 23 ม.ค.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการ กทพ. (บอร์ดการทางฯ) โดยจะมีการชี้แจงข้อสรุปจากที่ประชุมในวันนี้ให้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) ได้รับทราบด้วย ส่วนรายละเอียดการประชุมในวันนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยเป็นไปตามที่รองปลัดกระทรวงให้เหตุผลข้างต้น

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการระบบทางด่วนสายบางปะอิน – ปากเกร็ด ประชุมเสร็จแล้ว ผู้ว่ากทพ.ได้เรียกนายชาญชัย โพธิ์ทองคำ ประธาน สร.กทพ.ที่มาสังเกตการณ์เข้ามาพูดคุยเป็นการภายในประมาณ 30 นาที

จากนั้น นายชาญชัยได้เปิดเผยว่า ผู้ว่ากทพ.ชี้แจงว่า ได้นำกรอบการเจรจาที่มีกับ BEM ตามที่บอร์ด กทพ.มีมติไปเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา รายงานต่อที่ประชุมครั้งนี้ โดยยังยืนยันว่า จะต้องต่ออายุสัมปทานออกไป 37 ปีตามเดิม เพราะจากการเจรจาร่วมกันกับ BEM กทพ.มีอำนาจต่อรองได้สูงสุดที่ 37 ปีเท่านั้น ไม่สามารถทำให้ระยะเวลาของสัมปทานน้อยลงกว่านี้ได้ เพราะถ้ามีการต่อรองให้อายุสัญญาน้อยลง การคิดส่วนแบ่งรายได้ระหว่างรัฐกับเอกชนที่เดิมคือ กทพ. 60% BEM 40% จะถูกเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย

นายชาญชัยย้ำว่า จุดยืนเดิมของสหภาพคัดค้านเต็มที่อยู่แล้ว แต่หากท้ายที่สุดจะต้องปฏิบัติตามมติครม.จริงๆ ก็ขอต่อรองลดอายุสัญญาสัมปทานลงมาอยู่ที่ 30 ปีได้หรือไม่ โดยเป็นการยึดตามสัญญาสัมปทานเดิมที่กำหนดให้มีอายุสัญญาสูงสุดที่ 30 ปีเท่านั้น

ส่วนเรื่องส่วนแบ่งรายได้ให้คงที่ 60% และ 40% ตามเดิม โดยในวันที่ 23 ม.ค. สร.กทพ.จะยื่นหนังสือกับนายสุรงค์ บูลกุล ประธานบอร์ด กทพ.เพื่อยืนยันข้อเรียกร้องเดิมอีกครั้ง หากยังไม่ได้รับการตอบรับ จะส่งหนังสือถึงนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.ต่อไป