โควิด-19 ที่น่ากังวล สายพันธุ์โอไมครอน (B.1.1.529)

โควิด โอไมครอน
สุขภาพดีกับรามาฯ
อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด

ขณะที่ประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกเริ่มเปิดประเทศ รวมทั้งการผ่อนคลายกิจกรรมต่าง ๆ ให้สามารถดำเนินการได้ด้วยความระมัดระวังแบบวิถีใหม่ (new normal) ก็มีหลายประเทศที่การระบาดอย่างรุนแรงจนต้องปิดประเทศหรือบางภูมิภาคอีกครั้ง

ยังมีความกังวลเกี่ยวกับข่าวที่โด่งดังมากที่สุดในขณะนี้ เกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของโควิด-19 สายโอไมครอน (Omicron) จนมีข่าวหุ้นตกลงไปทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจด้วย

โควิด-19 กลายพันธุ์สายโอไมครอน (Omicron) คืออะไร

องค์การอนามัยโลกได้ประกาศเกี่ยวกับโควิด-19 กลายพันธุ์สายโอไมครอน (Omicron) หรือที่เรียกว่า สายพันธุ์ B.1.1.529 โดยกลุ่มที่ให้คำปรึกษาทางเทคนิคเกี่ยวกับการปรับสายพันธุ์ของไวรัสซาร์ส-โควี-2 ซึ่งก่อให้เกิดโรคโควิด หรือที่เรียกว่า กลุ่ม The Technical Advisory Group on SARS-CoV-2 Virus Evolution (TAG-VE)

ได้รายงานถึงความกังวลกับสายพันธุ์ใหม่นี้โดยที่สายพันธุ์นี้พบครั้งแรกในประเทศแอฟริกาใต้ โดยใช้การตรวจเลือดของวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 และมีการรายงานอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 ต่อมาพบในประเทศอิสราเอล บอตสวานา เบลเยียม และในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงของประเทศจีน

เชื้อนี้มีความสำคัญอย่างไร

ทำให้เกิดการติดเชื้อมากขึ้นอย่างชัดเจน แพร่เชื้อได้เร็วขึ้น และสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ที่สำคัญคือการใช้วิธีการตรวจโดยวิธีพีซีอาร์ ซึ่งเป็นการตรวจสารทางพันธุกรรม พบว่ายีนเอสซึ่งเป็นหนึ่งในยีนที่ค้นหาอาจจะไม่พบ เรียกกันว่า S gene dropout หรือ S gene target failure

ซึ่งก็มีการค้นพบนี้มาเป็นตัวแทนที่บอกว่าอาจจะพบสายพันธุ์โอไมครอนนี้ ระหว่างรอการยืนยันผลเพิ่มเติม การใช้วิธีนี้ทำให้เกิดการค้นพบสายพันธุ์นี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้องค์การอนามัยโลกตัดสินใจประกาศให้สายพันธุ์นี้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern ; VOC)

ขณะนี้เริ่มมีมาตรการอะไรแล้วบ้าง

บางประเทศเริ่มตัดสินใจยกเลิกหรือจำกัดการเดินทางเข้า-ออกจากประเทศในแถบแอฟริกาใต้ ตัวอย่างเช่น “สหราชอาณาจักรได้ประกาศห้ามเข้าประเทศสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศแอฟริกาใต้ นามิเบีย ซิมบับเว บอตสวานา เลโซโท และเอสวาตินี แต่ยังมีข้อยกเว้นว่าผู้ที่เดินทางนั้นเป็นคนสัญชาติสหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ หรือผู้ที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรแต่เดิม ซึ่งกฎนี้จะเริ่มใช้ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2564

ประเทศในสหภาพยุโรปและสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หยุดเครื่องบินที่เข้าออกจากบางประเทศในแถบแอฟริกาใต้

ประเทศญี่ปุ่นประกาศตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ว่าผู้ที่เดินทางจากประเทศในแถบแอฟริกาใต้ต้องอยู่ในสถานที่กักตัวเป็นเวลา 10 วัน และในระหว่างนี้ต้องตรวจหาเชื้อรวม 4 ครั้งในระดับประเทศที่ยังไม่มีการระบาด เช่น ประเทศไทยของเราควรจะทำอย่างไรบ้าง

1.รายงานผู้ติดเชื้อใหม่ รวมทั้งการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนที่เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวลเข้ามาในระบบที่สร้างไว้ ที่เรียกว่า IHR

2.เพิ่มการสำรวจสายพันธุ์ในประเทศ และส่งข้อมูลสายพันธุกรรมทั้งเส้นทางและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเข้าไปยังฐานข้อมูลสากล เช่น GISAID

3.หากเป็นไปได้ คือ ประเทศที่มีทรัพยากรเพียงพอควรทำงานวิจัยทางระบาดวิทยา เพื่อให้เข้าใจโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่เพื่อให้เกิดความเข้าใจในการวินิจฉัย ความรุนแรงของโรค ประสิทธิภาพป้องกันจากการดำเนินการทางสาธารณสุข การตอบสนองทางอิมมูนวิทยา ประสิทธิภาพของวัคซีน และลักษณะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

แล้วประชาชนแต่ละคนควรทำอย่างไรบ้าง

ใช้มาตรการป้องกันตนเอง ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือให้สะอาด ไม่ใช้ของร่วมกัน รักษาระยะห่าง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายอากาศ เลี่ยงบริเวณที่แออัด และรับวัคซีนโควิด-19

การรักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยการออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับให้เพียงพอ
รับประทานอาหารที่สะอาดและครบหมู่ รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

นอกจากนี้ อย่าลืมติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด มีความระมัดระวังในการรับข่าวที่อาจไม่เป็นความจริง หรืออาจจะเป็นอันตรายได้ เช่น ใช้วิธีการหรือสารที่ไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าป้องกันและรักษาโรคโควิด-19 ได้ เป็นต้น

อ้างอิง
https://www.who.int/news/item/26-11-2021-classification-of-omicron-(b.1.1.529)-sars-cov-2-variant-of-concern Accessed on 27th November 2021

https://www.bbc.com/news/world-59438723 Accessed on 27th November 2021

หมายเหตุ : อ.พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาคอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล