คอลัมน์ : เอชอาร์คอร์เนอร์
สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ไม่เพียงเร่งสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์โลกแห่งอนาคต หากยังตอกย้ำความสำเร็จของการเรียนแบบ work-based education ด้วยการผสานพลังคนรุ่นใหม่ ในการผลักดัน “ออลล์ เวลเนส” ธุรกิจในกลุ่มซีพี ออลล์ เพื่อพัฒนา “outdoor delivery robot” หรือ “หุ่นยนต์ส่งของสุดคิวต์” ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น
ที่ไม่เพียงจะสร้างขนส่งพลังงานสะอาด หากยังเป็น “ตัวช่วย” ให้พนักงานทำงานอย่างสะดวกอีกด้วย
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- บริษัทดัง ประกาศปิดกิจการ ทุกสาขาทั่วประเทศ เลิกจ้างหลายชีวิต
- แจกเงินดิจิทัล 10,000 ลุ้นซื้อไอโฟน-เครื่องใช้ไฟฟ้า “จุลพันธ์” นัดถกหาข้อสรุป
“ชูศักดิ์ ทวีกิติกุล” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ออลล์ เวลเนส จำกัด ธุรกิจในกลุ่มบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น และเซเว่นดีลิเวอรี่ กล่าวว่า การพัฒนา outdoor delivery robot หรือหุ่นยนต์ส่งของสุดคิวต์ของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ที่เป็นกระแสในโลกออนไลน์ในช่วงก่อนหน้านี้ กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการพัฒนาในเฟสที่ 2
โดยแนวคิดที่ทางเครือมุ่งเดินหน้าพัฒนาหุ่นยนต์ดังกล่าวนั้น มีเบื้องหลังทั้งหมด 5 เรื่องด้วยกัน คือ
หนึ่ง สร้างขนส่งพลังงานสะอาด (green energy delivery) ด้วยการนำหุ่นยนต์ซึ่งใช้พลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า 100% มาช่วยให้เกิดการขนส่งที่ไม่ก่อมลพิษ ไม่ส่งเสียงดัง
สอง เพิ่มตัวช่วยด้านการขนส่งให้แก่พนักงาน (delivery assistant) ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบนำทางอัตโนมัติ AI ไร้คนขับเข้ามาแบ่งเบาภาระการทำงานของพนักงานหน้าร้าน ในช่วงที่มีปริมาณการสั่งสินค้าเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก รวมถึงยังช่วยการขนส่งในเวลากลางคืน ตอบโจทย์การเป็นร้านที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง
สาม เพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค และพนักงาน (safety delivery) มาช่วยลดความกังวลเรื่อง COVID-19 และลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ
สี่ มอบโอกาส tech talent สร้างงานที่ท้าทายให้แก่เหล่า tech talent รุ่นใหม่ ลงมือปฏิบัติจริงเกี่ยวกับงานด้าน AI และ robotics ในการสร้างโอกาสพัฒนาคน และดึงดูดให้บุคลากรที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีมาร่วมงานกับองค์กรมากขึ้น
ห้า ปั้นธุรกิจ new S-curve สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ที่ตอบโจทย์โลกอนาคต โดยมองโอกาสการนำ outdoor delivery robot เข้าไปช่วยตอบโจทย์การส่งของให้แก่บริษัทหรือร้านค้าอื่น ๆ ใกล้ 7-Eleven ไปยังผู้บริโภคด้วย
“ที่ผ่านมาหุ่นยนต์มีบทบาทพลิกโฉมโลกไปพอสมควร แต่คนทั่วไปอาจยังมองไม่เห็น เนื่องจากส่วนใหญ่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม เช่น หุ่นยนต์สร้างรถ ช่วยประกอบรถให้เสร็จภายในไม่กี่นาที หุ่นยนต์ภาคการเกษตร ช่วยรดน้ำ ให้ปุ๋ย แต่หลังจากนี้หุ่นยนต์จะยิ่งมีบทบาทใกล้ชิดชีวิตประจำวันของคนมากขึ้น
เราได้เห็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นตามบ้าน กลายเป็นสินค้าขายดีระดับท็อป เราเริ่มเห็นหุ่นยนต์ indoor delivery robot ตามร้านอาหารต่อไป เราอยากให้ outdoor delivery robot ของเซเว่นอีเลฟเว่น ไปส่งของตามบ้านใกล้ชิดผู้คนด้วยเช่นกัน และเราเชื่อว่าอนาคตจมีหุ่นยนต์ที่เข้ามาช่วยดูแลผู้สูงอายุ เพื่อตอบโจทย์การเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยอีกด้วย”
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าหุ่นยนต์จะไม่เข้ามาแย่งงานของคน แต่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยงานคน โดยเฉพาะช่วงที่ประเทศกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (aging society) และมีประชากรวัยแรงงานลดลง ลดภาระการทำงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ เป็นประจำ (routine tasks)
เพื่อให้มนุษย์สามารถนำเวลาไปทำงานที่ยาก มีความจำเป็นต่อความอยู่รอด และมีความซับซ้อนมาก เช่น ปัญหาโลกร้อน มลพิษและขยะ ภาวะขาดแคลนอาหาร การดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ เชื้อโรคต่าง ๆ ที่รุนแรงและกลายพันธุ์อย่างรวดเร็ว เป็นต้น
โดยเครือซีพี ออลล์ จะมุ่งช่วยพัฒนาทักษะด้าน AI robotics และ coding ให้แก่เยาวชน ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น (4-15 ปี) ผ่านสถาบัน RobotLAB Thailand ซึ่งเป็นความร่วมมือพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้เทคโนโลยีหุ่นยนต์สำหรับภาคการศึกษาระหว่างออลล์ เวลเนส และ RobotLAB สหรัฐอเมริกา ณ อาคาร SIAMSCAPE ชั้น 9 โดยเริ่มดำเนินการสอนตั้งแต่ปี 2565 และจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
“ผศ.ดร.เกรียงไกร ทัศนวิภาส” ผู้อำนวยการศูนย์ความเป็นเลิศทางนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี PIM กล่าวว่า ที่ผ่านมาการพัฒนาหุ่นยนต์ในไทยยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม indoor delivery robot หรือหุ่นยนต์สำหรับใช้ส่งของภายในอาคารเท่านั้น การพัฒนา outdoor delivery robot ถือเป็นเรื่องท้าทาย และเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับประเทศไทย
“จุดยืนของ PIM จะมุ่งเน้นการเรียนการสอนแบบ work-based education ให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์การทำงานจริง เรียนเป็น คิดเป็น ทำงานเป็น สร้างนวัตกรรม งานวิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ ซึ่ง outdoor delivery robot
นับเป็นอีกงานวิจัยหนึ่งที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากการทำงานจริง สร้างสรรค์งานที่คำนึงถึงความใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรต่อโลก ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์ความต้องการของภาคอุตสาหกรรม”
สำหรับการพัฒนาในเฟสแรก ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน จนหุ่นยนต์มีรูปลักษณ์และดีไซน์ดังกล่าว สามารถรับส่งของได้ครั้งละ 2 ออร์เดอร์ โดยทดลองวิ่งจริงในพื้นที่เฉพาะสำหรับการทดสอบ หรือ sandbox บริเวณพื้นที่อาคารของ PIM และพื้นที่ธารา พาร์ค เพื่อให้แน่ใจว่าการวิ่งส่งของแต่ละครั้งมีความแม่นยำบนถนน รวมถึงสิ่งกีดขวางหลากหลายรูปแบบ
ขณะที่การพัฒนาในเฟสถัดไปจะพิจารณาการออกแบบหุ่นยนต์ให้มีหลายขนาดมากขึ้น พร้อมกับตอบโจทย์การรับ-ส่งสินค้าให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ด้วย