เปิด 7 ข้อ “พล.อ.ประวิตร” ให้ ก.แรงงานขับเคลื่อน-แถลงผลงานรอบ 1 ปี

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประวิตร ประชุมติดตามผลงานกระทรวแรงงานรอบ 1 ปี ขับเคลื่อนนโยบายได้ตามเป้า เน้นย้ำการทำงานในประเด็นสำคัญ 7 ข้อ

วันที่ 18 สิงหาคม 2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมรับฟังผลงานของกระทรวงแรงงานรอบ 1 ปี ในรูปแบบการประชุมผ่านระบบการประชุมทางวิดีโอ (video conference) โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน, ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน และพร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ณ ห้องแสงสิงแก้ว ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่ได้มารับฟังผลงานของกระทรวงแรงงาน ในรูปแบบประชุมผ่านระบบ video conference เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

“ผมขอชื่นชมกระทรวงแรงงาน ที่ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลที่เร่งด่วนและสำคัญ และให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานได้อย่างทันท่วงที โดยมีผลการดำเนินงานที่สำคัญเป็นเชิงประจักษ์ ขอบคุณกระทรวงแรงงานที่เร่งกระจายวัคซีนให้แก่ผู้ประกันตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยง ขอให้ดำเนินการต่อไปอย่างครบถ้วนและครอบคลุม เพื่อให้เป็นไปตามที่รัฐบาลได้กำหนด ให้การฉีดวัคซีนโควิด -19 เป็นวาระแห่งชาติ”

โดย พล.อ.ประวิตรยังได้เน้นย้ำการทำงานในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ดังนี้

1) การบริหารวัคซีน ให้เร่งดำเนินการสร้างภูมิคุ้มกันในกลุ่มแรงงานให้ครอบคลุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่สีแดงเข้ม สำหรับศูนย์ฉีดวัคซีนแคมป์คนงาน ขอให้เร่งดำเนินการตามเป้าหมายที่กำหนด

2) มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง มาตรา 33 ผู้ประกันตนอิสระ 39 และ 40 ขอให้ดำเนินการตามกำหนดระยะเวลา เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าว

3) สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มแรงงาน ป้องกัน ดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากโควิด-19 รวมทั้งบุคลากรของกระทรวงแรงงาน

4) โครงการ Blue Factory ให้บริหารจัดการอย่างครบวงจร โดยสำรวจความสมัครใจของสถานประกอบการ ตรวจคัดกรองให้ครอบคลุม หากพบผู้ติดเชื้อให้เร่งดูแลและช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีตามมาตรการด้านสาธารณสุข

5) แรงงานต่างด้าว ให้กำกับ ดูแล บริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว ให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

6) ยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและองค์การระหว่างประเทศ และต้องกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ของรัฐมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์โดยเด็ดขาด หากพบมีพฤติการณ์ให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ทั้งทางวินัยและอาญาทุกราย

7) ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานในรูปแบบออนไลน์ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นหลักสูตรในการพัฒนาทักษะดิจิทัล เช่น การผลิตสื่อโฆษณาและหนังสั้นด้วยสมาร์ทโฟน เทคนิคการสร้างร้านค้าและขายสินค้าออนไลน์

ทั้งนี้ การประชุมในวันนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ video conference ไปยังสำนักงานแรงงานจังหวัด และสำนักงานแรงงานในต่างประเทศด้วย เพื่อขอให้ตรวจสอบและช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งขับเคลื่อนมาตรการให้ความช่วยเหลือของกระทรวงแรงงานในทุกมิติ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน

จากนั้นที่ประชุมได้รับฟังการรายงานผลงานของกระทรวงแรงงานในรอบ 1 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งมีผลงานที่สำคัญ อาทิ

  • การยกระดับทักษะฝีมือแรงงานให้เป็นแรงงานคุณภาพ สามารถผ่านการอบรมแล้ว 110,110 คน มีงานทำแล้วคิดเป็นร้อยละ 69.79 มีรายได้เฉลี่ย 14,152 บาทต่อเดือน
  • การส่งเสริมการมีงานทำสามารถบรรจุงานได้ 1,313,591 คน ก่อให้เกิดรายได้ 75,728 ล้านบาทเศษ
  • การคุ้มครองและแก้ไขปัญหาแรงงานถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรมให้ลูกจ้าง 16,000 คน วงเงิน 850 ล้านบาท
  • การเพิ่มประสิทธิภาพ การบังคับใช้กฎหมาย โดยมีการตรวจสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันการค้ามนุษย์ 1,211 แห่ง
  • จากสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงแรงงาน เยียวยาแรงงาน ผู้ประกันตน ลดเงินสมทบกว่า 12 ล้านคน นายจ้างกว่า 480,000 คน เยียวยาเหตุสุดวิสัย 50% ให้ผู้ประกันตน 198,432 คน โครงการ ม.33 เรารักกัน 8,140,000 คน รวมทั้งการเยียวยาในพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ในการตรวจเชิงรุก และการรักษาโควิด-19 อย่างทั่วถึง เป็นต้น