ซูเปอร์ฮีโร่ในอุดมคติของแต่ละคนเป็นเช่นไร

สไปเดอร์แมน
ภาพจาก AFP

ในยุคปัจจุบันพบเหล่าภาพยนตร์ และการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ได้รับชมกันอย่างมากมาย และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากค่ายยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ จึงทำให้เกิดคำถามต่าง ๆ ว่าเราสามาถใช้พลังกับ “คนร้าย” มีเพียงความดีสีขาว และความชั่วอันมืดมิดเท่านั้นเป็นผู้ดำเนินเรื่องได้หรือไม่ ?

วันที่ 16 เมษายน 2566 พลเมืองดีไม่จำเป็นต้องมีสำนึกว่าตนเป็นคนดีหรือเหนือกว่า หรือ แตกต่างจากผู้อื่นในสังคม สำนึกของพลเมืองดีในทางกระบวนการยุติธรรมนั้นมิได้ดีเสมอไป แต่พลเมืองดีกระทำการ หรือไม่ตามกรอบของกฎหมายและศีลธรรม

ขั้นพื้นฐานที่สังคมคาดหวังเท่านั้น ไม่ผูกขาดความดี ซูเปอร์ฮีโร่มีความตระหนักรู้ตลอดเวลาว่าตนเป็น คนดี และมีภารกิจ ตลอดชีวิตในการ ล้างชั่ว มีความสุดขั้วในการเทิดทูนให้คุณค่าและมีแนวโน้ม ที่จะสร้างมาตรฐานความดีความยุติธรรมแบบอัตวิสัย เพื่อให้ตนและหมู่คณะ ยังคงรักษาฐานที่มั่นแห่งความดีเอาไว้ อันเป็นลักษณะผูกขาดความดีไว้กับตนเอง

หากตั้งมั่นอยู่บนพื้นฐานของโลกแห่งความเป็นจริง เหล่าร้าย อาชญากรหรือผู้ทำผิดกฎหมายในทุกสังคม ต่างก็มีความเป็นมนุษย์ ซึ่งในสายตาแห่งกฎหมายบุคคลเหล่านั้นมีสิทธิขั้นพื้นฐานในฐานะที่เป็นมนุษย์ การทำความเข้าใจถึงสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้รักษาความยุติธรรมยุคใหม่

ซึ่งเหล่าร้าย หรือสัตว์ประหลาดในโลกจินตนาการนั้นในโลกของความเป็นจริงก็คือมนุษย์ธรรมดาซึ่งกระทำผิดกฎหมายและควรได้รับการพิจารณาดำเนินคดีตามบรรทัด

ฐานของกฎหมายจึงจะถูกต้องดังนั้นการนำมุมมองที่มีต่อตัวละครสัตว์ประหลาด หรือเหล่าร้ายอันมี ลักษณะ “ไม่ใช่คน” ในอุดมคติมาใช้กับผู้กระทำผิดกฎหมายย่อมทำให้เกิดการ ละเมิดสิทธิมนุษยชนในกระบวนการยุติธรรม กลายเป็นระบบ “กฎหมู่”ถูกเชิดชู เหนือกฎหมาย

การที่คนเราจะตัดสินว่าใครดีใครเลวนั้น บางครั้งมันเป็นเรี่องยาก ที่ผ่านมาซุปเปอร์เป็นฮีโร่ในอุดมคติ บางครั้งมันก็สะท้อนอีกมุมมอง ฮีโร่มิใช่จะสมบูรณ์แบบเสมอไป ความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบใครนั้น บางทีไม่ใช่ดูพฤติกรรม แต่เป็นเรื่องของอคติส่วนตัวล้วนๆ

ข้อมูล : สำนักวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย