แอตต้า เร่งฟื้นกรุ๊ปทัวร์จีนขนผู้ประกอบการโรดโชว์ “เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู”

แอตต้า

สมาคมแอตต้าขนทัพผู้ประกอบการโรงแรม แหล่งท่องเที่ยว บริษัททัวร์กว่า 60 รายบุกโรดโชว์ “เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู” 2 เมืองใหญ่ของจีน ประกาศความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวจีน พร้อมกระตุ้นความเชื่อมั่นผู้ประกอบการฝั่งจีนให้กลับมาโปรโมตขายประเทศไทยอีกครั้ง เผยเอเย่นต์ทัวร์ฝั่งจีนตอบรับดีเกินคาด ย้ำตลาดจีนต้องขับเคลื่อนทั้งตลาด FIT-กรุ๊ปทัวร์ไปพร้อมกัน

นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) สมาคมทัวร์อินบาวนด์ หรือนักท่องเที่ยวขาเข้า เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า สมาคมแอตต้าร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้นำผู้ประกอบการไทยรวมกว่า 60 บริษัท ประกอบด้วย โรงแรม บริษัทนำเที่ยว และแหล่งท่องเที่ยวไปโรดโชว์ ณ นครเซี่ยงไฮ้ และเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 11-15 ธันวาคม 2566

โดยการจัดโรดโชว์ครั้งนี้สมาคมแอตต้าได้รับการตอบรับจากบริษัทนำเที่ยวในเซี่ยงไฮ้ เฉิงตู และเมืองต่าง ๆ ที่อยู่ในเขตติดต่อเซี่ยงไฮ้และเฉิงตู เข้าร่วมพบปะและเจรจาธุรกิจกับกลุ่มผู้ประกอบการไทยรวมเมืองละประมาณ 350 บริษัท

ตาราง สถิตินักท่องเที่ยว

สื่อสารความพร้อม-ฟื้นเชื่อมั่น

ดร.อดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวเสริมว่า เป้าหมายของการจัดโรดโชว์ครั้งนี้ประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.เพื่อไปแสดงความพร้อมว่าประเทศไทย ผู้ประกอบการท่องเที่ยว และบริษัทนำเที่ยวของไทยมีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวแล้ว

2.เป็นการกระตุ้นความเชื่อมั่นว่าพวกเขาสามารถโปรโมตเมืองไทยและกลับมาดำเนินธุรกิจได้ โดยผู้ประกอบการในประเทศไทยพร้อมร่วมมือระหว่างกัน

และ 3.เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่าง 2 ประเทศ และศึกษาข้อมูลพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่เปลี่ยนไปหลังโควิด รวมถึงข้อมูลสนับสนุนที่จะทำให้แนวทางการทำตลาดให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาอีกครั้ง

“นอกเหนือจากการพบปะ เจรจา ซื้อ-ขายสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวแล้ว การไปโรดโชว์ของสมาคมแอตต้าครั้งนี้ถือเป็นการเริ่มต้นนับ 1 ของการกลับมาทำตลาดกรุ๊ปทัวร์หลังจากที่เกิดวิกฤตโควิด ดังนั้นการมีข้อมูลสนับสนุนทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชนจึงเป็นประเด็นที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง” ดร.อดิษฐ์กล่าว

แอตต้า

“เซี่ยงไฮ้-เฉิงตู” พร้อมออกเที่ยว

ดร.อดิษฐ์กล่าวด้วยว่า เหตุผลหลักที่ทางสมาคมแอตต้าเลือกนครเซี่ยงไฮ้และเมืองเฉิงตูสำหรับการไปโรดโชว์ครั้งแรกนี้ เนื่องจากเป็น 2 เมืองใหญ่ของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีจำนวนประชากรออกเดินทางสูงสุด 3 อันดับแรกในช่วงวันหยุดวันชาติจีน (GoIden Week) ที่ผ่านมา โดยเซี่ยงไฮ้มีจำนวนสูงสุดเป็นอันดับ 1 มีประชากรคนจีนออกเดินทางสูงถึง 79,000 คนต่อวัน ขณะที่เฉิงตูมีประมาณ 40,000 คนต่อวัน

“จากสถิติการเดินทางออกนอกประเทศของจีนในช่วงวันชาติจีนที่ผ่านมาพบว่าเมืองหลักซึ่งประกอบด้วย เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เฉิงตู มีจำนวนนักท่องเที่ยวออกเดินทางไปต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 62.2 ของตลาดรวม จากข้อมูลนี้สะท้อนว่าประชากรในเมืองเหล่านี้มีความพร้อมที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวแล้ว ดังนั้นเราจึงเจาะไปในเมืองที่พร้อมออกเดินทาง หรือตลาดที่มีศักยภาพก่อน” ดร.อดิษฐ์กล่าว

แอตต้า

ตั้งเป้าปี’67 นักท่องเที่ยวจีนเพิ่ม 2 เท่า

จากรายงานของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-3 ธันวาคม 2566 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนสะสม รวม 3,130,029 คน จากจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมรวม 25,081,212 คน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 12.48%

ขณะที่นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า ททท.คาดการณ์ว่าในปี 2566 นี้ประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวจากจีนรวมราว 3.4-3.5 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 190,400-196,000 ล้านบาท (ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน/ทริปอยู่ที่ 56,000 บาท) และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 8.2 ล้านคน สร้างรายได้รวมประมาณ 451,800 ล้านบาทในปี 2567

แอตต้า

เร่งกระตุ้น “กรุ๊ปทัวร์”

นายศิษฎิวัชรกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิดประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามามีสัดส่วนระหว่างกรุ๊ปทัวร์และเดินทางด้วยด้วยตัวเอง (FIT) ประมาณ 50 : 50 จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาประมาณ 11 ล้านคน ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาที่ 10-11 ล้านคนเทียบเท่ากับปี 2562 จำเป็นต้องขับเคลื่อนทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง และกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ไปพร้อม ๆ กัน

“สำหรับตลาดจีนบริษัททัวร์ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนตลาด และกรุ๊ปทัวร์ก็ถือเป็นตลาดสำคัญในการที่ผลักดันวอลุ่มให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นไปตามเป้าหมาย หากรัฐบาลไม่ใช้กลไกของบริษัททัวร์เข้ามาช่วยกระตุ้นกลุ่มกรุ๊ปทัวร์เราจะไม่มีโอกาสได้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนกลับมาได้ถึง 10 ล้านคนเหมือนในอดีต” นายศิษฎิวัชรกล่าว

การไปโรดโชว์ครั้งนี้จึงเป็นการกระตุ้นนักท่องเที่ยวกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ และสร้างความมั่นใจให้บริษัททัวร์ในฝั่งจีนเกิดความมั่นใจและกล้าที่จะกลับมาเหมาที่นั่งสายการบิน และวางแผนทำชาร์เตอร์ไฟลต์กันอีกครั้ง

“สถานการณ์ของบริษัททัวร์ในจีนตอนนี้ฟื้นกลับมาเกือบปกติและพร้อมทำการตลาดแล้ว ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงการทำให้เขาเชื่อมั่นว่ามาเที่ยวแล้วปลอดภัย ซึ่งหากทุกฝ่ายช่วยกันกระตุ้นผมเชื่อมั่นว่าเป้า 7-8 ล้านสำหรับนักท่องเที่ยวจีนในปีหน้ามีความเป็นไปได้” นายศิษฎิวัชรกล่าว