เทรนด์ท่องเที่ยวธรรมชาติบูม กรมอุทยานงัดกฎหมายคุมเข้มทัวริสต์

เทรนด์ท่องเที่ยว
ภาพจาก : freepik

เผย 4 เดือนแรกปี’67 ต่างชาติเที่ยวอุทยานไทย 2 ล้านคน พุ่งแซงก่อนโควิด กรมอุทยานฯเชื่อทั้งปี นทท.แห่เยือนอุทยานทะลุ 20 ล้านคน ฮึ่มใช้กฎหมายคุมเข้มแหล่งท่องเที่ยว ผู้ประกอบการไม่คุมทัวริสต์ โดนเชือดแน่

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แนวโน้มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพื้นที่อุทยานในปี 2567 อาจมากขึ้น สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนหนึ่งก็ต้องการสัมผัสธรรมชาติ ซึ่งพื้นที่หลายแห่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานฯ

โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากมีพฤติกรรมเดินทางแบบแอดเวนเจอร์ เน้นศึกษาธรรมชาติ และมักกระจุกตัวบนพื้นที่อุทยานทางทะเล ส่งผลให้รายได้ที่เก็บจากอุทยานทางทะเลคิดเป็นราว 50% ของรายได้ทั้งหมด

สำหรับปีงบประมาณ 2566 กรมอุทยานฯสามารถจัดเก็บรายรับเงินอุทยานแห่งชาติ ประมาณ 1,466 ล้านบาท ขณะที่ 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 จัดเก็บรายได้ทั้งสิ้นประมาณ 849 ล้านบาท

ปี’67แห่เข้าอุทยานเท่าก่อนโควิด

นายอรรถพลกล่าวว่า จากข้อมูลสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในอุทยานแห่งชาติประจำปีงบประมาณ 2567 ไตรมาสที่ 1 (ตุลาคม-ธันวาคม 2566) พบว่ามีจำนวน 5,062,540 คน เพิ่มขึ้น 26.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งมีจำนวน 3,995,620 คน

แต่หากพิจารณาในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2567 พบว่ามีนักท่องเที่ยวรวมชาวไทยและต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่อุทยานแล้ว เป็นจำนวน 7,054,847 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 18.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งมีจำนวน 5,728,730 คน

“จากสถิติดังกล่าวคาดว่าปี 2567 นี้ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพื้นที่อุทยานเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่ประมาณ 27% หรือประมาณ 20 ล้านคน เทียบเท่ากับนักท่องเที่ยวในปี 2562 โดยสัดส่วนของนักท่องเที่ยวต่างชาติอาจเติบโตมากขึ้น” นายอรรถพลกล่าว

ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพื้นที่อุทยานประจำปีงบประมาณ 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 พบว่ามีจำนวน 20,819,396 คน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 5,890,586 คน และนักท่องเที่ยวชาวไทย 14,928,810 คน

ต่างชาติชอบเที่ยวอุทยาน

เมื่อสืบค้นข้อมูลจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบว่า สถิตินักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่อุทยาน ปีงบประมาณ 2567 ระหว่างเดือนตุลาคม 2566-มกราคม 2567 พบว่า มีจำนวน 4,826,498 คน เพิ่มขึ้นประมาณ 4% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2566 ซึ่งมีจำนวน 4,643,621 คน

ขณะที่ในปีงบประมาณ 2562 ระหว่างเดือนตุลาคม 2561-มกราคม 2562 หรือก่อนการระบาดของโควิด-19 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าพื้นที่อุทยาน 5,999,828 คน

ด้านสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่อุทยาน ปีงบประมาณ 2567 ระหว่างเดือนตุลาคม 2566-มกราคม 2567 พบว่า มีจำนวน 2,228,349 คน เพิ่มขึ้น 105% จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2566 ซึ่งมีจำนวน 1,085,109 คน

นอกจากนี้ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าพื้นที่อุทยานในปีนี้ ได้ฟื้นตัวเหนือกว่าช่วงการระบาดของโควิด-19 ไปแล้ว โดยช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2562 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าพื้นที่อุทยาน 2,216,213 คน

เร่งพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว

นายอรรถพลกล่าวว่า ในปี 2567 กรมอุทยานฯต้องระดมงบประมาณทั้งหมดพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนมากขึ้น มีพื้นที่เหมาะสมรองรับนักท่องเที่ยว จุดบริการ จุดปฐมพยาบาล ระบบการติดต่อสื่อสาร ร้านอาหาร ห้องน้ำ เท่าที่จะทำได้

โจทย์ของปี 2567 นี้ คือ การควบคุมมลพิษที่เกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยว เช่น น้ำเสีย การจัดการขยะ รวมถึงการวางแผนพัฒนาสุขอนามัยภายในแหล่งท่องเที่ยว

สำหรับปีงบประมาณ 2567 กรมอุทยานฯได้รับงบประมาณประมาณ 10,950 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรประมาณ 5 พันล้านบาท งบฯลงทุนเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง ประมาณ 2-3 พันล้านบาท ค่าใช้จ่ายสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประมาณ 2 พันล้านบาท เหลืองบประมาณพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวหลักร้อยล้านบาท โดยรายได้จากอุทยานทางทะเลได้นำไปถัวเฉลี่ยเพื่อพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ

เข้มใช้ กม.ปกป้องผืนป่า

นายอรรถพลกล่าวว่า ในปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ผู้ประกอบการต้องการโกยรายได้ เมื่อนักท่องเที่ยวจำนวนมากเข้ามาในพื้นที่อุทยาน หลายครั้งทำให้ธรรมชาติเสื่อมโทรม กรมอุทยานฯก็ไม่สามารถเข้มงวดได้ดีพอ ทำให้ต้องปิดพื้นที่บางแห่งเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ

สำหรับในปี 2567 รัฐบาลกำหนดให้การท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยตั้งเป้าหมายมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยประมาณ 35-40 ล้านคน อธิบดีกรมอุทยานฯกล่าวว่า ตนเชื่อว่าปัจจุบันกรมมีเจ้าหน้าที่เพียงพอรองรับต่อจำนวนนักท่องเที่ยวดังกล่าว แต่ต้องบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชน

“การปลูกจิตสำนึกไม่พอ ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ถ้าผู้ประกอบการปล่อยให้นักท่องเที่ยวมาทำตามอำเภอใจ เกิดความเสียหายก็ต้องรับผิดชอบ ผมจะลงโทษให้หมด ดังนั้น ผู้ประกอบการก็ต้องคอยสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวของตัวเองด้วย”

นอกจากนี้ ในบางพื้นที่อุทยานยังใช้มาตรการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้มีความเหมาะสม หากประเมินว่าจำนวนนักท่องเที่ยวใกล้เกินกว่าพื้นที่รับไหว คณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานจะพิจารณาควบคุมจำนวนแต่ละพื้นที่และชี้แจงแก่ประชาชนให้ทราบต่อไป

“การท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องรับปริมาณมาก ๆ ถึงเวลาที่ควบคุมก็ต้องหยุด ไม่เช่นนั้นอาจเกิดความเสียหายต่อธรรมชาติ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปถึงก็จะไม่ได้รับความสุขเต็มที่จากการที่นักท่องเที่ยวมีจำนวนมากเกินไป แถมมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย”

ทั้งนี้ อธิบดียืนยันว่าปี 2567 กรมจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกว่าปี 2562 แน่นอน และคาดหวังว่าสัดส่วนข่าวด้านลบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่กรมอุทยานฯจะลดลงเมื่อเทียบกับสัดส่วนนักท่องเที่ยว