ไขปริศนา มาตรฐาน 1-5 ดาวของโรงแรม ใครเป็นคนกำหนด วัดกันที่ตรงไหน

ทันทีที่มีข่าวว่าที่ประชุมคณะกรรมการไตรภาคีเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567 เคาะขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 400 บาท ใน 10 จังหวัดท่องเที่ยว เฉพาะธุรกิจโรงแรม 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567 นี้เป็นต้นไป

เกิดคำถามตามมาทันทีว่ามาตรฐานโรงแรม 1-5 ดาวที่ระบุไว้นั้น วัดกันที่ตรงไหน และใครเป็นคนกำหนด ในทางปฏิบัติแล้วสามารถทำได้แค่ไหน

“ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมข้อมูลเรื่องมาตรการ “ดาว” ของโรงแรม จากหลากหลายแหล่งข้อมูล อาทิ สมาคมโรงแรมไทย ฮาบิแทท กรุ๊ป AIRPORTELs เป็นต้น

บทความต่าง ๆ ระบุว่า มาตรฐานโรงแรมที่เรียกว่า “มาตรฐานดาว” เป็นสัญลักษณ์แทนค่ามาตรฐานบริการระดับต่าง ๆ สำหรับโรงแรม โดยมีตั้งแต่ 1-5 ดาว คือเริ่มตั้งแต่ระดับธรรมดาไปจนถึงระดับหรูหรา ก็เพื่อแบ่งแยกระดับกันอย่างชัดเจน

พร้อมระบุว่า ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นผู้ที่บุกเบิกการใช้สัญลักษณ์รูปดาวเป็นครั้งแรก โดยใช้รูปดาว 1-5 ดวงเพื่อแยกประเภทมาตรฐานการบริการธุรกิจที่พักให้เห็นความแตกต่างชัดเจน

สำหรับมาตรฐานการวัดระดับโรงแรมในประเทศไทยนั้น สมาคมโรงแรมไทยและสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดตั้งองค์กรกลางชื่อว่า “มูลนิธิพัฒนามาตรฐานและบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว” เมื่อปี 2549 เพื่อตรวจสอบการจัดระเบียบโรงแรมไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกันและใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

และยึดตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล จากการให้คะแนน 1-5 ดาวซึ่งเรียงลำดับต่ำสุดไปถึงระดับยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งรวมถึงการพิจารณาให้เรื่องความต้องการของผู้เข้าพักด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ไปจนถึงคุณภาพของบริการที่มีความหลากหลายตั้งแต่ห้องพัก, ห้องอาหาร, บาร์หรือเลานจ์, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม ไปจนถึงบริการกีฬาอื่น ๆ

4 หลักเกณฑ์จัดระดับดาวโรงแรม

โดยปัจจัยที่นำมาพิจารณาจัดระดับดาวของโรงแรม ประกอบด้วย

1.ทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อม และบรรยากาศโดยรอบ
2.โครงสร้างของโรงแรมและระบบความปลอดภัย การตกแต่งและสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม 3.คุณภาพของบริการ เช่น ความสะดวก ความปลอดภัย คุณภาพและขนาดห้องพัก ความคุ้มค่าด้านราคา รวมถึงชื่อเสียงของโรงแรม
4.การบำรุงรักษา และการทำความสะอาดห้องพักในโรงแรม

โรงแรมระดับ 1-5 ดาว แบ่งอย่างไร

โรงแรมระดับ 1 ดาว เป็นมาตรฐานเริ่มต้นของธุรกิจโรงแรม ห้องพักตกแต่งเรียบง่าย บรรยากาศดูเป็นกันเอง ไม่เน้นการตกแต่งสวยงามหรือบรรยากาศหรูหรา ห้องพักขนาด 10 ตารางเมตรขึ้นไป มีสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไป เช่น เตียงขนาด 3 ฟุต กระจกแต่งหน้า โต๊ะ เก้าอี้ ถังขยะ ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า ภายในห้องน้ำมีผ้าเช็ดตัวและกระดาษชำระไว้

โรงแรมระดับ 2 ดาว มีบริการแบบจำกัดถือว่าอยู่ได้สะดวกสบายพอสมควร ห้องพักสะอาดเรียบง่าย สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไปเพียบพร้อมน่าพอใจ และบรรยากาศดีก็ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ห้องพักขนาดใหญ่กว่า 14 ตารางเมตร พร้อมตาแมวไว้ให้ผู้พักอาศัยมองเห็นแขกที่มาเคาะหรือกดกริ่งประตูได้ โซ่คล้องประตูสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย เตียงขนาด 3 ฟุตขึ้นไป

มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในแต่ละห้อง เช่น กระจกแต่งหน้า, ชุดโต๊ะ-เก้าอี้, โทรทัศน์ และโทรศัพท์ติดต่อภายใน บางแห่งมีร้านอาหารเปิดให้ภายในโรงแรมด้วย

โรงแรมระดับ 3 ดาว ห้องพักตกแต่งสวยงามและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับแขกที่เข้าพัก ทั้งยังมีบรรยากาศความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การตกแต่งสวยงามมีคุณภาพและความสะดวกสบายที่ดีขึ้น บรรยากาศค่อนข้างเรียบง่ายแต่หรูหรา ห้องมาตรฐานขนาดพื้นที่ใช้สอย 18 ตารางเมตรขึ้นไป มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ภายในห้องพักมีเตียงนอนสุดนุ่ม เพิ่มไฟหัวเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โทรทัศน์และเคเบิลทีวี และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย WiFi, เครื่องปรับอากาศ, โคมไฟ, มินิบาร์ ภายในห้องน้ำมีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น, มีอุปกรณ์ครบครันทั้งผ้าเช็ดตัว กระดาษชำระ ไดร์เป่าผม ฝักบัว และหมวกอาบน้ำ มีบริการร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ ในโรงแรมมีบริการรูมเซอร์วิสในพื้นที่ส่วนตัว เสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มถึงห้องพัก พื้นที่ส่วนกลางมีห้องประชุมจัดเลี้ยงสำหรับจัดงานสัมมนา บางแห่งอาจให้บริการฟิตเนสด้วย

โรงแรมระดับ 4 ดาว เป็นโรงแรมทันสมัย พื้นที่กว้างขวาง มีบรรยากาศหรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักโดยทั่วไปตกแต่งหรูระดับพรีเมี่ยม ขนาดกว้างกว่า 24 ตารางเมตร เตียงขนาด 3.5 ฟุตขึ้นไป พร้อมด้วยโทรทัศน์, ตู้เย็น, มินิบาร์, กระติกน้ำร้อน พร้อมชา, กาแฟ ภายในห้องมีเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ภายในห้องน้ำมีอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบ พร้อมปลั๊กไฟสำหรับใช้ไดร์เป่าผมหรือโกนหนวด เครื่องนอนที่หรูหรา

มีบริการระหว่างเข้าพักในโรงแรม เช่น ห้องอาหาร, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สปา, โยคะ, นวดอโรมา, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม มีบาร์ที่บริการเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน อาจมีบาร์ริมสระว่ายน้ำด้วย ขนาดของโรงแรมค่อนข้างใหญ่ มีห้องพักให้เลือกใช้บริการหลายระดับ ทุกห้องมีโทรทัศน์, ห้องน้ำแบบโมเดิร์น, บริการอินเทอร์เน็ต WiFi ความเร็วสูง

โรงแรมระดับ 5 ดาว มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและบรรยากาศหรูหรา การตกแต่งสถานที่สวยงามระดับ VIP ทั้งภายนอกและภายใน ยกระดับสถานที่และบรรยากาศ พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง 30 ตารางเมตรขึ้นไป มีเตียงนอนนุ่มขนาดไม่น้อยกว่า 4 ฟุต เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากขึ้น ในห้องมีโทรทัศน์, เครื่องปรับอากาศ, สัญญาณ WiFi, เคเบิลทีวี, ตู้เย็น ห้องน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่มีอ่างอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์ของใช้ครบถ้วน

บริเวณโรงแรมมีทั้งห้องประชุมใหญ่และห้องย่อยไว้บริการลูกค้า, มีห้องอบไอน้ำ, ห้องนวดสปา, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และบริการซัก-อบ-รีด ฯลฯ

สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ คือโรงแรม 1 ดาว คือความเรียบง่าย ส่วนโรงแรม 4-5 ดาวนั้น ส่วนใหญ่เป็นโรงแรมมีทำเลที่ตั้งที่ดี มีบริการที่หลากหลายและสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพิเศษ พนักงานได้รับการฝึกฝนให้บริการลูกค้าระดับมืออาชีพ