“ท่องเที่ยวเวียดนาม” ฟื้นตัว ททท.ดึงคนรุ่นใหม่เที่ยวไทย

ททท.สำนักงานเวียดนามเผยเวียดนามปรับนโยบายอยู่ร่วมกับโควิด ประชากรฉีดวัคซีนบูสเตอร์เกินครึ่ง ชี้ท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว 5 แอร์ไลน์เปิดเส้นทางบินเชื่อมไทย-เวียดนามรวม 52 เที่ยวบิน/สัปดาห์ ย้ำประชากรกลุ่มมิลเลนเนียลพร้อมออกเดินทางสัมผัสประสบการณ์ใหม่

นางรติวัณณ บุญประคอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานโฮจิมินห์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามได้ปรับเปลี่ยนนโยบายด้านสาธารณสุขเป็นการอยู่ร่วมกับโควิด-19 โดยประชากรชาวเวียดนามกว่า 80.2% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว เกินกว่าเป้าที่ทางการตั้งไว้ที่ 70% และประชากรมากกว่าครึ่งได้รับการฉีดวัคซีนบูสเตอร์โดสเรียบร้อยแล้วเช่นกัน

โดยที่ผ่านมาได้ปรับลดมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว และชาวอาเซียนสามารถเดินทางเข้าเวียดนามในรูปแบบ free visa (ไทย 30 วัน) โดยต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนครบโดส มีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง หรือมีผลการตรวจ ATK แบบ professional use เป็นลบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และเมื่อเดินทางถึงเวียดนามต้องโหลดแอปพลิเคชั่นติดตามตัว

นางรติวัณณกล่าวว่า ปัจจุบันบรรยากาศการเดินทางในประเทศเวียดนามเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเดือนมกราคม-มีนาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าเวียดนามราว 90,000-100,000 คน เป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปเอเชีย 58,945 คน, ยุโรป 16,635 คน, อเมริกา 12,294 คน (ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้าเวียดนามราว 5 แสนคน)

สำหรับประเทศไทยนั้นขณะนี้มีสายการบินที่ทำการบินเส้นทางระหว่างไทย-เวียดนาม ทั้งหมด 5 สายการบิน คือ เวียดนามแอร์ไลน์ส เส้นทางโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ, ฮานอย-กรุงเทพฯ, สายการบินแบมบู แอร์เวย์ส เส้นทางโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ สายการบินไทยสมายล์ เส้นทางกรุงเทพฯ-โฮจิมินห์, กรุงเทพฯ-ฮานอย สายการบินไทยแอร์เอเชีย เส้นทางกรุงเทพฯ-โฮจิมินห์, กรุงเทพฯ-ฮานอย และกรุงเทพฯ-ดานัง (เริ่ม 1 พฤษภาคม) และสายการบินเวียตเจ็ทแอร์ เส้นทางโฮจิมินห์-กรุงเทพฯ, ดานัง-กรุงเทพฯ, ฮานอย-กรุงเทพฯ รวมทุกสายการบินปัจจุบันให้บริการทั้งสิ้น 52 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

สำหรับมาตรการเดินทางเข้าประเทศไทยนั้น นางรติวัณณกล่าวว่า บริษัทนำเที่ยวของเวียดนามมีความเห็นว่า ทางการไทยควรผ่อนคลายมาตรการให้มากที่สุด นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังเห็นว่าสายการบินควรเปิดเที่ยวบินเชื่อมทั้ง 2 ประเทศให้มากยิ่งขึ้น รวมถึงต้องการอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับคู่ค้าทางธุรกิจในประเทศไทย และต้องการให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำการประชาสัมพันธ์ สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของระบบสาธารณสุขไทย

อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวตลาดเวียดนามก็ยังคงมีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ โดยปัจจัยบวก คือ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่สิ้นสุด ทำให้การเดินทางระหว่างประเทศระยะไกลได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวจึงให้ความสนใจเดินทางไปยังประเทศในแถบอาเซียนและเอเชียมากกว่า และหลายประเทศในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ยังคงมีมาตรการคุมเข้มการเดินทางเข้าประเทศอยู่ ทำให้เป็นโอกาสอันดีต่อไทยในการดึงนักท่องเที่ยวเวียดนาม

และในแง่ประชากร ชาวเวียดนามมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 31 ปี เกือบ 35% อาศัยอยู่ในเขตเมือง และมีแนวโน้มที่กล้าจะออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งจากการสำรวจพบว่ากว่า 95% ระบุว่า พวกเขาเคยซื้อสินค้าทางออนไลน์ และเกือบ 45% เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องบริการการท่องเที่ยว

ส่วนปัจจัยลบที่ต้องจับตา คือ โควิด-19 ยังส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว การเดินทางข้ามพรมแดนยังมีความลำบาก และภูมิอากาศของประเทศไทยที่ร้อนกว่าหลาย ๆ ประเทศในอาเซียน อีกทั้งยังมีรายงานมลพิษที่สูงในบางพื้นที่ เช่น เชียงใหม่ กรุงเทพฯ อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของนักเดินทาง

นางรติวัณณกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ททท.สำนักงานเวียดนาม เตรียมออกแคมเปญส่งเสริมการตลาดกลุ่ม millennial ซึ่งมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 20-45 ปี ประกอบอาชีพพนักงานออฟฟิศ หรือฟรีแลนซ์ มีรายได้ปานกลาง-สูง ราว 12,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี มีประชากรราว 4 ล้านคน กระจายอยู่ใน 3 เมืองใหญ่ คือ โฮจิมินห์ ฮานอย และดานัง

โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ต้องการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่า เน้นการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนเป็นหลัก ออกเดินทางในวันหยุดสุดสัปดาห์ เมืองที่โฟกัส คือ กรุงเทพฯ, พัทยา, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หัวหิน, เขาใหญ่, กระบี่ และเชียงราย

“หากการท่องเที่ยวกลับมา ประเทศไทยยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่ชาวเวียดนามอาจจะเลือกเดินทางไป” นางรติวัณณกล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ส่วนหนึ่งมีความเห็นว่า ประเทศไทยอาจยังขาดผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวใหม่ ๆ หรือมีความหลากหลาย จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในการปรับแผนให้เหมาะสมกับความต้องการต่อไป

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พบว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามที่เดินทางเข้าประเทศไทย ในเดือนมกราคม 2565 มีจำนวน 477 คน และในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีจำนวน 1,618 คน และคาดว่าในเดือนมีนาคม-เมษายน อาจมีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 3,000 คนต่อเดือน