จีนคลายล็อกอีกขั้น เลิกรหัสติดตามประชาชน เดินทางข้ามเมือง 13ธ.ค.นี้

เลิกรหัสติดตามประชาชน
Security personnel guard an entrance to a hospital in Beijing, Saturday, Dec. 10, 2022. (AP Photo/Ng Han Guan)

มาตรการคลายล็อกของจีนล่าสุด เลิกรหัสติดตามประชาชนทางดิจิทัล ซึ่งเดิมคุมการเดินทางข้ามเมือง-มณฑล เริ่ม 13 ธ.ค.นี้

วันที่ 12 ธันวาคม 2565 สำนักข่าว ซินหัว รายงานว่า จีนประกาศยกเลิกการใช้งานเครื่องมือดิจิทัลสำหรับติดตามการเดินทางข้ามเมือง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 13 ธ.ค.เป็นต้นไป

รายงานระบุว่า ทางการจีนจะยุติการให้บริการเครื่องมือดิจิทัลที่ใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “รหัสการเดินทางดิจิทัล” ในทุกช่องทางตามข้อกำหนดของหน่วยงานส่วนกลาง

China will drop a travel tracing requirement as part of an uncertain exit from its strict “zero-COVID” policies that have elicited widespread dissatisfaction. (AP Photo/Andy Wong)

หลังจากทางการใช้ระบบนี้มาตั้งแต่ปี 2020 (พ.ศ. 2563) เพื่อติดตามการเดินทางข้ามเมืองของประชาชน ช่วยให้รัฐบาลท้องถิ่นดำเนินการอย่างตรงจุดเพื่อป้องกันความเสี่ยงติดเชื้อที่อาจเกิดขึ้น

ก่อนหน้านี้ สื่อต่างประเทศเคยรายงานว่าระบบการติดตามประชาชนดังกล่าวถูกมองว่าเป็นเครื่องมือของทางการที่ควบคุมประชาชนได้เกินกว่าโรคระบาด

เช่น กรณีที่ประชาชนนัดกันไปเรียกร้องเงินคืนจากธนาคารที่ปิดเส้นทางการติดต่อ ที่เมืองเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนาน กลับได้รับ “รหัสแดง” ที่หมายถึงเป็นผู้ติดหรือผู้เสี่ยงติดโควิด ห้ามเดินทางข้ามเมืองหรือข้ามมณฑล

A worker in protective overalls controls the line outside the fever clinic at a hospital in Beijing, Saturday, Dec. 10, 2022 (AP Photo/Ng Han Guan)

สำหรับการปรับกฎคลายล็อกของจีนที่มีขึ้นเพื่อลดกระแสกดดันทางสังคม หลังมวลชนลุกฮือประท้วงนโยบายซีโร่โควิดถึงขั้นเรียกร้องให้ผู้นำลาออก

ต่อมาเมื่อ 7 ธ.ค. กลไกร่วมป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 แห่งคณะรัฐมนตรีจีน มีหนังสือเวียนแจ้งมาตรการป้องกันและควบคุม 10 ประการ เพื่อควบคุมโรคระบาดแบบพุ่งเป้าและตามหลักวิทยาศาสตร์ยิ่งขึ้น ได้แก่

1.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในท้องถิ่นต้องแก้ไขแนวทางเหมารวม และขั้นตอนทางนโยบายที่มากเกินไป ต่อต้านและยับยั้งพิธีการและระบบราชการที่ไร้แก่นสาร

ดำเนินมาตรการป้องกันและควบคุมอย่างซื่อสัตย์ เพื่อการปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชนขั้นสูงสุด และลดผลกระทบของโรคระบาดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมให้ได้มากที่สุด

2.ห้ามการขยับขยายพื้นที่เสี่ยงสูงตามอำเภอใจ และเรียกร้องการจำแนกพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 แบบพุ่งเป้าและตามหลักวิทยาศาสตร์ โดยพื้นที่เสี่ยงควรถูกกำหนดตามครัวเรือน ชั้น หน่วยหลัง และอาคาร แทนเขตย่อย (หมู่บ้านและตำบล) ชุมชน และย่านที่อยู่อาศัย

3.ประชาชนจะไม่ถูกบังคับเข้าร่วมการทดสอบกรดนิวคลีอิกขนานใหญ่ตามภูมิภาคการปกครอง ส่วนขนาดและความถี่ของการทดสอบกรดนิวคลีอิกจะถูกปรับลดลงเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับปรุงประสิทธิภาพและความเหมาะสมของการทดสอบกรดนิวคลีอิก

4.ประชาชนจะไม่ต้องแสดงผลทดสอบกรดนิวคลีอิกที่เป็นลบ และผ่านการตรวจเช็กรหัสสุขภาพ เพื่อเข้าถึงสถานที่สาธารณะ หรือเดินทางสู่ภูมิภาคอื่น ๆ อีกต่อไป ยกเว้นบ้านพักคนชรา สถาบันการแพทย์ โรงเรียนประถมและมัธยมต้น โรงเรียนอนุบาล และสถานที่พิเศษอื่น ๆ

5.ผู้ติดเชื้อควรได้รับการรักษาตามหลักวิทยาศาสตร์ ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการและผู้ติดเชื้อที่มีอาการเล็กน้อยสามารถกักตัวที่บ้านหากทำได้

Photo by Matthew WALSH / AFPTV / AFP

6.ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อควรกักตัวที่บ้าน 5 วัน ด้านพื้นที่เสี่ยงสูงต้องยกเลิกมาตรการกักตัว หากไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ติดต่อกัน 5 วัน

7.รับรองความต้องการขั้นพื้นฐานของประชาชนในการซื้อยารักษาโรคภัยไข้เจ็บ โดยร้านขายยาควรเปิดดำเนินการตามปกติและห้ามจงใจปิดดำเนินการ

8.เร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในหมู่ผู้สูงอายุ โดยมุ่งเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนในประชาชนอายุ 60-79 ปี และประชาชนอายุ 80 ปีขึ้นไป พร้อมกับปรับปรุงบริการฉีดวัคซีนด้วยการจัดตั้งช่องทางพิเศษและจุดฉีดวัคซีนชั่วคราว และออกรถฉีดวัคซีนเคลื่อนที่

9.สถาบันการแพทย์ขั้นปฐมภูมิและแพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวควรให้บริการแบบพุ่งเป้าไปยังกลุ่มคนสำคัญ โดยอิงตามสถานะสุขภาพของประชาชนผู้สูงอายุ ส่วนบริการทางสังคมและการแพทย์ขั้นพื้นฐานต้องดำเนินงานตามปกติ ด้านพื้นที่ไม่เสี่ยงสูงไม่ควรกำหนดข้อจำกัดการเดินทางหรือระงับการดำเนินธุรกิจ

10.สำหรับผู้อยู่ระหว่างกักตัว ผู้ป่วย และพนักงานแนวหน้า ควรได้รับความเอาใจใส่เป็นพิเศษ และการบริการที่ปรึกษาทางจิตใจ ส่วนโรงเรียนที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควรเปิดดำเนินการตามปกติ และโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดควรกำหนดพื้นที่เสี่ยงอย่างแม่นยำ และรับรองการดำเนินการตามปกติในพื้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบ

วันเดียวกัน ซินหัวรายงานว่า หน่วยงานกำกับควบคุมการบินพลเรือนประจำภูมิภาคตอนเหนือของจีนเปิดเผยว่า กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศ ได้รับรองเที่ยวบินเพิ่มขึ้นในช่วงไม่นานนี้ หลังจากจีนปรับปรุงมาตรการรับมือการระบาดของโควิด-19

(210620) — Beijing Daxing International Airport in Beijing, capital of China. (Xinhua/Ren Chao)

จำนวนเที่ยวบินทั้งหมดที่ท่าอากาศยานนานาชาตินครหลวงปักกิ่ง และท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่ง ต้าซิง ในวันอาทิตย์ที่ 11 ธ.ค. เพิ่มขึ้นร้อยละ 169 จากช่วงต้นเดือนธันวาคม และคาดว่าจำนวนเที่ยวบินรายวันของสนามบินทั้งสองแห่งจะกลับมาอยู่ที่ร้อยละ 70 ของระดับปี 2019 ในอนาคตอันใกล้

ทั้งนี้ ผู้โดยสารไม่จำเป็นต้องแสดงรหัสสุขภาพและผลทดสอบกรดนิวคลีอิกที่เป็นลบ หรือตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเมื่อเข้าสู่สนามบินทั้งสองแห่งอีกต่อไปตามชุดมาตรการใหม่ด้วย

….