บีบีซีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์สะพานของทางยกระดับมอเตอร์เวย์พังถล่มในเมืองเจนัว ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี ส่งผลให้มีรถยนต์หลายคันที่อยู่บนทางหลวงดังกล่าวร่วงหล่นลงมาด้วยจากความสูงกว่า 100 เมตร
ล่าสุดหน่วยกู้ภัยในเมืองเจนัว เเละนักดับเพลิงทั่วอิตาลี ยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตโดยใช้สุนัข เเละอุปกรณ์ปีนเขา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า รถยนต์หลายสิบคันตกลงมาจากความสูงกว่า 45 เมตร มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย เเละมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 16 ราย
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
Emanuele Giffi เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกล่าวกับเอเอฟพี ว่า เราจะยังไม่หมดหวัง ทีมงานจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าเหยื่อรายสุดท้ายจะได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้มีผู้อพยพออกจากพื้นที่กว่า 400 ราย เนื่องจากหวั่นว่าบริเวณอื่นๆ ของสะพานจะถล่มลงมา
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่มีฝนตกหนัก เเต่ยังไม่มีการระบุสาเหตุที่สะพานถล่มลงมา อย่างไรก็ตามมีการกล่าวถึงความปลอดภัยของโครงสร้างสะพาน
สะพานโมรันดี สร้างขึ้นในปี 1960 ตั้งอยู่บนทางด่วนสาย A10 ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญสำหรับการขนส่งสินค้าจากท่าเรือในประเทศ ส่วนที่พังทลายลงมานั้นเป็นช่วงที่ข้ามแม่น้ำโปลซีวีร่า ซึ่งย่านชุมชนหนาแน่น
Alessandra Bucci โฆษกตำรวจแห่งเจนัว กล่าวกับรอยเตอร์สว่า ยังมีผู้รอดชีวิตอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งช่วยเหลือ โดยการมองหาช่องโหว่เล็กๆ เพื่อสำรวจตามรถที่ติดอยู่
นาย Salvini กล่าวว่าเด็กสามคนอายุ 8 ปี 12 ปี และ 13 ปี เสียชีวิต
ทั้งนี้ ขณะเกิดเหตุ ตำรวจกล่าวว่า มีการระเบิดขึ้นอย่างรุนเเรง โดยพยานไม่ระบุชื่อ กล่าวกับสำนักข่าว Ansa ของอิตาลีว่า ได้ยินเสียงดัง เเต่คิดว่าเป็นเสียงฟ้าร้อง เพราะขณะนั้นฝนตกหนัก “เราอาศัยอยู่ห่างจากสะพานประมาณ 5 กิโลเมตร เราได้ยินเสียงดังปัง ก่อนจะเกิดเหตุสลด เเละเมืองหยุดชะงัก”
Giovanni Toti ผู้ว่าราชการจังหวัดลิกูเรเรีย กล่าวว่า การถล่มของสะพานมอเตอร์เวย์ดังกล่าว ไม่เพียงเเค่กระทบต่อถนนสายหลักในเจนัวเท่านั้น เเต่ยังกระทบทั้งประเทศอีกด้วย