สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าหลังจากพายุเฮอร์ริเคน “ฮาร์วีย์” พัดถล่มทางตอนใต้ของรัฐเท็กซัสตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุดมีการอพยพผู้คนมากกว่า 2,000 คนออกจากพื้นที่ประสบภัยบริเวณเมืองฮิวสตัน ของรัฐเท็กซัสแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าอาจจะมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 ราย ซึ่งจะการสืบสวนกำลังดำเนินต่อไป
ด้านนายเกร็ก แอบบอต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ยังไม่ยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ และยังกล่าวอีกด้วยว่าถนนและมอเตอร์เวย์กว่า 250 เส้นทางในรัฐเท็กซัสถูกปิด และได้ประกาศภัยพิบัติใน 19 เคาท์ตี้ด้วย
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- เงื่อนไข ธอส. จัดเงินฝากออมทรัพย์ “เก็บออม” ดอกเบี้ยสูง 1.95%
ขณะที่รายงานข่าวจากทำเนียบข่าวระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐเตรียมลงพื้นที่ประสบภัยในรัฐเท็กซัสในวันอังคารนี้
อย่างไรก็ตามพายุฮาร์วีย์ที่ถล่มเท็กซัสนั้นสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก ประชาชนไม่มีไฟฟ้าใช้ และต้องนำเรือออกมาเป็นยานพาหนะแทน และยังทำให้อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมันต้องหยุดชะงัก
บริษัทเอ็กซอนโมบิล แถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ระบุว่า ได้ระงับการทำงานของโรงกลั่นน้ำมันในนิคมเมืองเบย์ทาวน์ ซึ่งเป็นนิคมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสหรัฐอย่างไม่มีกำหนด
ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า 22 เปอร์เซ็นต์ อุตสาหกรรมผลิตน้ำมันดิบบริเวณอ่าวเม็กซิโกต้องถูกระงับ ซึ่งมีการผลิตมากกว่า 275,000 บาร์เรลต่อวัน
ทั้งนี้พายุฮาร์วีย์ เป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปี
