กลุ่มทนายยื่นฟ้อง 5 ยักษ์เทคโนฯ ใช้แรงงานเด็กคองโกขุดแร่โคบอลต์

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า กลุ่มทนายความสิทธิระหว่างประเทศ (International Rights Advocates) ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ 5 แห่ง ได้แก่ แอปเปิล กูเกิล ไมโครซอฟต์ เดลล์ และเทสลา ในข้อหาใช้ “แรงงานเด็ก” ในอุตสาหกรรมขุดแร่โคบอลต์ในประเทศคองโก

โดยกลุ่มทนายความระหว่างประเทศได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องระดับรัฐบาลกลาง ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่า บริษัททั้ง 5 แห่งรับรู้ถึงการใช้แรงงานเด็กอย่างโหดร้ายทารุณในสภาวะที่อันตรายของอุตสาหกรรมการขุดแร่โคบอลต์ แต่ยังคงสนับสนุนและส่งเสริมการอุตสาหกรรมดังกล่าว

ซึ่งทางกลุ่มทนายความได้กล่าวอ้างไปยังข้อมูลของกระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกาที่ได้เคยระบุว่า แร่โคบอลต์ที่ขุดในเหมืองแร่ของคองโกมาจากการบังคับใช้แรงงานเด็ก อีกทั้งสื่อหลายสำนักยังได้รายงานถึงสถานการณ์อันเลวร้ายของการใช้แรงงานเด็กในคองโกอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ โคบอลต์เป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิต “แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน” ที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแร่โคบอลต์ถึงสองในสามของโลกมาจากประเทศคองโก ในปี 2018 ได้มีการเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมแร่โคบอลต์มีการใช้บังคับใช้แรงงานเด็กและการคอร์รัปชั่นเป็นจำนวนมาก

ส่งผลให้เกิดกระแสการเรียกร้องให้มีการยุติการใช้แรงงานเด็กไปยังบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ แต่หลายบริษัทระบุว่า บริษัทไม่สามารถตรวจสอบที่มาของแร่ชนิดดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมีความซับซ้อนอย่างมากในห่วงโซ่อุปทาน

ขณะที่ แอปเปิลปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อการฟ้องร้อง แต่เปิดเผยความโปร่งใสของการจัดหาแร่อังกล่าว โดยระบุว่า “ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา เราได้เปิดเผยรายชื่อผู้จัดหาแร่โคบอลต์ให้เราทุกปี โดยมีบุคคลที่สามเข้าร่วมการตรวจสอบอย่างเป็นอิสระ 100%” ทั้งนี้ “หากผู้จัดหาไม่เต็มใจหรือไม่สามารถปฏิบัติตามมาตรฐานของเราได้ก็จะถูกตัดออกจากห่วงโซ่อุปทานของเรา โดยในปี 2019 นี้เราได้ตัดชื่อบริษัทออกถึง 6 แห่ง”

ส่วนเดลล์ระบุในแถลงการณ์ว่า “เราไม่เคยมีการดำเนินงานโดยรู้มาก่อนว่า มีการบังคับใช้แรงงานโดยไม่สมัครใจ การคอร์รัปชั่น และการใช้แรงงานเด็กทุกรูปแบบ เราทำงานร่วมซับพลายเออร์ในการจัดการกระบวนการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ และซับพลายเออร์ที่ได้รับการรายงานว่ากระทำผิดจะถูกตรวจสอบ และหากพบว่ากระทำผิดจริงก็จะถูกตัดออกจากห่วงโซ่อุปทานของเรา”

ด้าน “อัลฟาเบต” บริษัทแม่ของกูเกิลระบุว่า บริษัททำงานร่วมกับผู้จัดหาและกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวทังในและนอกประเทศคองโก ตัวแทนของอัลฟาเบตระบุว่า “แรงงานเด็กและการเสี่ยงอันตรายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ จรรยาบรรณของซัพพลายเออร์ของเราห้ามดำเนินงานเช่นนี้โดยเด็ดขาด เรามุ่งมั่นในการจัดหาวัตถุทั้งหมดอย่างมีจริยธรรมและขจัดการใช้แรงงานเด็กในอุตสหกรรมเหมืองแร่ทั่วโลก”

ขณะที่ ไมโครซอฟต์และเทสลายังไม่แสดงความคิดเห็นต่อกรณีฟ้องร้องดังกล่าว แต่บริษัททั้ง 5 แห่งมีข้อกำหนดด้านจรรยาบรรณสำหรับซับพลายเออร์ในเรื่องการใช้แรงงานเด็กทุกแห่ง

กลุ่มทนายความระหว่างประเทศระบุว่า แรงงานเด็กถูกเอารัดเอาเปรียบและได้รับบาดเจ็บจากอุตสาหกรรมขุดแร่โคบอลต์ของบริษัท Glencore, Umicore และ Huayou Cobalt ซึ่งทางกลุ่มทนายความระบุว่า บริษัทเหมืองแร่เหล่านี้จัดหาโคบอลต์ให้กับบริษัทเทคโนโลยีที่ถูกฟ้องร้องบางรายหรือทั้ง 5 ราย แต่บริษัทเหมืองแร่เหล่านี้ไม่ได้ถูกฟ้องร้องโดยตรง

ตัวแทนของ Glencore ได้ออกมาระบุว่า บริษัท “ไม่ยินยอมให้เด็กถูกบังคับหรือใช้แรงงานในทุกรูปแบบ” และ “การผลิตแร่โคบอลต์ของ Glencore ในคองโกเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมผลิตแร่ทองแดง โดยที่บริษัทไม่ได้ซื้อหรือดำเนินการหรือจำหน่ายแร่ที่ขุดขึ้นเอง” ขณะที่ Umicore และ Huayou Cobalt ยังไม่แสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นกลุ่มทนายความระหว่างประเทศได้ขอร้องให้ศาลสั่งให้บริษัทเทคโนโลยีทั้ง 5 แห่งจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากการใช้แรงงานเด็ก ซึ่งกำลังต้องเข้ารับการรักษาทางการแพทย์อยู่ในขณะนี้