อดีตนายกฯอังกฤษเตือน “จอห์นสัน” ระวัง “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” เจรจายาก-เสียประโยชน์

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า “โทนี แบลร์” อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรจากพรรคเลเบอร์ ได้วิพากษ์วิจารณ์กระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษหรือ “เบร็กซิต” ของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร พร้อมทั้งระบุว่า นายกฯจอห์นสันจะต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเจรจากับข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรปก่อนสิ้นปี 2020 และจะทำให้อังกฤษสูญเสียผลประโยชน์สำคัญต่อสหภาพยุโรป

นายแบลร์ระบุด้วยว่า เป็นความผิดพลาดของพรรคแรงงานที่ยินยอมให้เกิดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 12 ธ.ค. เพียงเพราะประเด็นเบร็กซิตประเด็นเดียว “มันเป็นเรื่องน่าเศร้า เราไม่ควรเห็นด้วยกับการให้เลือกตั้งทั่วไปใหม่อีกครั้งเพราะเบร็กซิต เป็นความบ้าคลั่งอย่างมากที่จะนำปัญหาสองอย่างมารวมกัน เราควรมีการลงประชามติโดยชาวอังกฤษเพื่อยืนยันการตัดสินใจอีกครั้ง แต่เราก็ไม่ได้ทำ”

ทั้งนี้ นายแบลร์เป็นนายกฯ อังกฤษจากพรรคเลเบอร์ระหว่างปี 1997-2007 มีแนวคิดไม่สนับสนุนเบร็กซิตและยังรณรงค์ให้มีการทำประชามติอีกครั้งต่อประเด็นดังกล่าว หลังการพ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์ของพรรคเลเบอร์ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพรรคเลเบอร์ได้สูญเสียฐานเสียงแรงงานในหลายพื้นที่อย่างน่าผิดหวัง

ชัยชนะของนายจอห์นสันและพรรคคอนเซอร์เวทีฟที่สามารถครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้อีกครั้ง ส่งผลให้กระบวนการเบร็กซิตเดินหน้าอย่างรวดเร็วไปสู่การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในเดือน ม.ค. 2020 ตามข้อตกลงเดิมของนายจอห์นสัน

แต่หลังจากนั้นจะเข้าสู่ “ช่วงเปลี่ยนผ่าน” ซึ่งจะมีการเจรจากันในประเด็นต่าง ๆ ระหว่างอังกฤษและสหภาพยุโรปอย่างกว้างขวางและซับซ้อนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการกำหนดแนวทางการปฏิบัติและความสัมพันธืกับสหภาพยุโรปในหลายประเด็นทั้งสภาพแวดล้อม ความสามารถในการแข่งขัน สิทธิแรงงาน และการค้า ซึ่งนายกฯจอห์นสันตั้งเป้าว่า การเจรจาทุกอย่างจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2020 โดยระหว่างนั้นอังกฤษจะยังคงอยู่ภายใต้กฎระเบียบและข้อบังคับทั้งหมดของสหภาพยุโรป

แต่นายแบลร์มองว่า ระยะเวลาดังกล่าวรวดเร็วเกินไปที่จะต่อรองกับสหภาพยุโรป ซึ่งหากนายกฯจอห์นสันจริงจังกับกำหนดเวลาดังกล่าว นายจอห์นสันจะต้องการเตรียมพร้อมสำหรับการประนีประนอมกับข้อตกลงที่ซับซ้อนและต่อรองสูง นายแบลร์ยังเตือนว่า นายกฯจอห์นสันประเมินปัญหาต่ำเกินไป

“ถ้าคุณตัดสินใจว่า คุณต้องการใช้กฎของตนเองและยังคงอยากเข้าถึงตลาดยุโรป นั่นเป็นการเจรจาที่ยุ่งยากและผมยังไม่เห็นวี่แววว่าจะสรุปได้ภายในสิ้นปีหน้า ถ้าเขาจริงจังและกล่าวว่า ‘ใช่ เราจะออกกฎหมายที่จะทำให้เราถอนตัวไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในปี 2020’ เขาก็จะพบว่ามันยากมาก เว้นเสียแต่ว่าเขาพร้อมที่จะทำข้อตกลงกับยุโรปเป็นจำนวนมาก” นายแบลร์กล่าว