วารสารการแพทย์แลนเซต เผยผลวิจัยการทดลองในฮ่องกง พบฉีดวัคซีนโควิดของซิโนแวคเข็มแรก เสี่ยงเกิดอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก
วันที่ 17 สิงหาคม 2564 สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างอิงข้อมูลจากวารสารการแพทย์ “เดอะ แลนเซต ด้านโรคติดเชื้อ” (The Lancet Infectious Disease)” เปิดเผยถึงผลการศึกษาจากกลุ่มผู้ทดลองกว่า 452,000 ราย ที่ได้รับวัคซีนของซิโนแวค พบข้อมูลยืนยันผลการทดลองทางคลินิกว่า มี 28 รายที่เกิดอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ขณะที่ผู้ฉีดวัคซีนไฟเซอร์มากกว่า 537,000 มีอาการดังกล่าวเพียง 16 ราย
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษา ระบุว่า วัคซีนของซิโนแวค ยังคงมีประโยชน์และประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าความเสี่ยงจากอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน
สำหรับการศึกษาข้างต้น เป็นการทดลองโดยการติดตามอาการเพื่อประเมินความเสี่ยงและอาการไม่พึงประสงค์ของผู้ได้รับวัคซีนภายใน 42 วัน ในประเทศฮ่องกง โดยการเกิดอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกในผู้ป่วยหลังฉีดวัคซีนยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน และได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม
ซิโนแวค ยันเกิดขึ้นยาก-ไม่รุนแรง
ขณะที่ Liu Peicheng โฆษกของ ซิโนแวค ได้เขียนจดหมายตอบกลับผลการศึกษาดังกล่าว ระบุว่า อาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกหลังจากได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคนั้นเกิดขึ้นได้ยาก และอาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรงและจะดีขึ้นเอง
อีกทั้ง การวิเคราะห์ข้อมูลจากหน่วยงานควบคุมโรคของจีน หรือ หน่วยฐานข้อมูลเหตุการณ์ไม่ถึงประสงค์หลังฉีดวัคซีน (Uppsala Monitoring Center of the World Health Organisation) ก็ไม่มีข้อมูลการตรวจพบความเสี่ยงการเกิดอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกหลังฉีดวัคซีนแต่อย่างใด
Liu Peicheng ยังย้ำว่า ประชาชนควรได้รับการฉีดวัคซีนโคโรนาแวกซ์อย่างครบถ้วนให้ทันเวลา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและการติดเชื้อไวรัสโควิด-19