จีนเตือนอาเซียน ระวังถูกชาติมหาอำนาจใช้เป็น “หมาก”

Stefani Reynolds/Pool via REUTERS

รัฐมนตรีต่างประเทศจีน เตือน ประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก ระวังถูกชาติมหาอำนาจใช้เป็น “หมาก” หลังหลายประเทศถูกบีบให้เลือกข้าง 

วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า “หวัง อี้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เตือนระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียว่า ประเทศต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงการถูกใช้เป็น “หมาก” โดยมหาอำนาจ

ที่สำนักเลขาธิการสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในกรุงจาการ์ตา หวังยังกล่าวด้วยว่า หลายประเทศในภูมิภาคนี้อยู่ภายใต้แรงกดดันให้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

“เราควรปกป้องภูมิภาคนี้จากการคำนวณทางภูมิรัฐศาสตร์ จากการถูกใช้เป็นหมากในการแย่งชิงอำนาจของการแข่งขันและการบีบบังคับ” เขากล่าวพร้อมเสริมว่า “อนาคตของภูมิภาคของเราควรอยู่ในมือของเราเอง”

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่แห่งความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างชาติมหาอำนาจมาช้านานแล้ว ทำให้ภูมิภาคแห่งนี้มีความสำคัญในเชิงยุทธศาสตร์ โดยบางประเทศระมัดระวังอย่างยิ่งในการเลือกข้างระหว่างสหรัฐกับจีน

การกล่าวของหวังครั้งนี้มีขึ้นไม่กี่วัน หลังจากเขาเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ G20 ในบาหลี และเกิดขึ้นท่ามกลางการเดินเกมทางการทูตที่เข้มข้นของจีน ซึ่งทำให้เขาต้องเดินสายไปตามประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

ในการประชุมนอกรอบของการประชุม G20 หวังจัดประชุมเป็นเวลา 5 ชั่วโมง กับ “แอนโทนี บลิงเคน” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ทั้งคู่ระบุว่าการพูดคุยกันครั้งแรกตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นไปอย่าง “ตรงไปตรงมา”

หวังกล่าวในวันเดียวกันว่า เขาได้บอกกับบลิงเคนว่า ทั้งสองฝ่ายควรหารือกันเกี่ยวกับการจัดตั้งกฎเกณฑ์สำหรับการมีปฏิสัมพันธ์เชิงบวก และเพื่อร่วมกันสนับสนุนภูมิภาคนิยมในเอเชีย-แปซิฟิก

“องค์ประกอบหลักคือการสนับสนุนการรวมศูนย์ในอาเซียน รักษากรอบการทำงานในระดับภูมิภาค เคารพสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของกันและกันในเอเชีย-แปซิฟิก แทนที่จะมุ่งเป็นปฏิปักษ์หรือควบคุมอีกฝ่ายหนึ่ง” หวังกล่าว

หวังยังตอบคำถามเกี่ยวกับไต้หวัน โดยกล่าวหาว่าสหรัฐบิดเบือนนโยบายจีนเดียว และพยายามใช้ไต้หวันเป็นไพ่เพื่อขัดขวางและสกัดการพัฒนาของจีน

ความตึงเครียดระหว่างทางการจีนและไต้หวันเพิ่มสูงขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ เนื่องจากกองทัพจีนได้ปฏิบัติภารกิจทางอากาศซ้ำหลายครั้งบริเวณช่องแคบไต้หวัน