กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เปิดสถานะล่าสุดของเหมืองแร่โพแทช 3 แหล่งของไทย “ไทยคาลิ ยังขอปรับรูปแบบใหม่ อาเซียนโปแตชชัยภูมิ เร่งเคลียร์หนี้เอเชีย แปซิฟิค ลุ้นผู้ถือหุ้นจากอิตาเลียนไทยที่ขาดสภาพคล่อง” ยังไม่หมดหวัง ไทยต้องผลิตปุ๋ยใช้เองได้
วันที่ 19 มีนาคม 2567 ความหวังของภาคการเกษตร ที่ประเทศไทยจะผลิตปุ๋ยใช้เองในประเทศ เกิดขึ้นแน่นอนแต่จะปีไหนนั้นเป็นเรื่องที่คนไทยก็ยังคาดหวังอยู่ เพียงเพราะต้องการลดการพึ่งพาและนำเข้าจากต่างประเทศให้เหลือน้อยที่สุด หรือเป็นศูนย์ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ความพยายามที่จะฟื้นโครงการปุ๋ยแห่งชาติ ถูกนำมาพิจารณาและพูดถึงมากขึ้น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
หลังจากที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ด้วยเป็นแหล่งที่ไทยนำเข้าวัตถุดิบ จึงส่งผลให้ราคาปุ๋ยปรับตัวสูงขึ้นในช่วงหนึ่ง เป็นต้นทุนที่เกษตรกรต้องแบกรับ ซึ่งยังไม่รวมปัจจัยลบจากภัยธรรมชาติ นี่จึงกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ราคาพืชผลปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน
นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โครงการเหมืองแร่โพแทชในประเทศไทย ขณะนี้มี 3 แห่งที่มีสถานะชัดเจน โดย บริษัท ไทยคาลิ จำกัด ซึ่งได้รับประทานบัตรเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2558 ในพื้นที่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
ขณะนี้ได้มีการขอปรับรูปแบบการทำเหมืองให้เป็นลักษณะแนวดิ่ง เพื่อลดและหลีกเลี่ยงกับอุปสรรคปัยหาที่เจออยู่ในขณะนี้ และหากโครงการสามารถดำเนินได้ตามที่ขอรับการอนุญาตทางบริษัทไทยคาลิ จะสามารถผลิตโพแทชได้ปริมาณ 1 แสนตัน/ปี ซึ่งตลอดอายุโครงการที่ได้รับประทานบัตร 25 ปี สามารถผลิตโพแทชได้ 2.15 ล้านตัน
“ไทยคาลิต้องส่งการเปลี่ยนแปลงให้ คณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (คชก.สผ.) พิจารณาก่อน เพราะกระทบกับแผนฟื้นฟู”
ส่วนบริษัท อาเซียนโปแตช ชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) อำเภอบำเหน็จณรงค์ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับประทานบัตรเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2558 มีอายุประทานบัตร 25 ปี สถานะขณะนี้ยังคงขอปรับโครงสร้างหนี้ โดยได้ทำการส่งเรื่องให้กรมบัญชีกลางพิจารณาอยู่ คาดว่ายังต้องรอการพิจารณาระยะหนึ่ง ซึ่งหากผ่านพ้นและสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้ จะสามารถผลิตโพแทชได้ 1.1 ล้านตัน/ปี หรือ 17.33 ล้านตัน ตลอดอายุโครงการ
และสุดท้ายคือ บริษัท เอเชีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด (APPC) อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ได้รับประทานบัตรเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2565 มีอายุโครงการ 25 ปีเช่นเดียวกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการเคลียร์พื้นที่เพื่อทำเหมือง โดยหากเริ่มดำเนินการได้ จะสามารถผลิตโพแทชได้ 2 ล้านตัน/ปี หรือสูงถึง 33.67 ล้านตันตลอดโครงการ
ซึ่งจากกรณีที่ทางผู้ถือหุ้นหรืออิตาเลียนไทยขาดสภาพคล่อง เชื่อว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวล และมั่นใจว่าโครงการยังสามารถเดินหน้าได้ต่อ “จากที่ได้รับแจ้งจากบริษัท APPC ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้ผู้ร่วมลงทุน และดำเนินโครงการได้ตามแผน”