จับตาทั่วโลกรายงานจีดีพี Q4/63 โบรกฯคาดตัวเลข “สภาพัฒน์ฯ” หดตัว 4%

สัปดาห์นน้าจับตาทั่วโลกทยอยประกาศจีดีพีไตรมาส 4/63 “เอเซียพลัส” คาด “สภาพัฒน์ฯ” รายงานตัวเลขเศรษฐกิจไทยหดตัว 4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ลุ้น 15 ก.พ. “คณะรัฐมนตรี” อนุมัติมาตรการ “เรารักกัน” ให้เงิน 4 พันบาทต่อคน รวมกัน 9.2 ล้านคน แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 หนุนเซนติเมนต์บวกหุ้นค้าปลีก

“เอเซียพลัส” คาด “สภาพัฒน์ฯ” รายงานจีดีพีไทย Q4 หดตัว 4%

บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซียพลัส จำกัด รายงานว่า หลายประเทศทั่วโลกได้ทยอยประกาศตัวเลขเศรษฐกิจ(GDP Growth) งวดไตรมาส 4/63 ออกมาแล้ว ฝ่ายวิจัยเอเซียพลัสพบว่าส่วนใหญ่ตัวเลขจีดีพีฟื้นตัวต่อเนื่องจากงวดไตรมาส 3/63 และออกมาดีกว่าหรือใกล้เคียงกับ Bloomberg Consensus คาด อาทิ จีดีพีของประเทศจีนไตรมาส 4/63 ขยายตัว 6.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน(YoY) จาก 4.9% ในงวดไตรมาส 3/63 (ดูตาราง)

ส่วนจีดีพีของไทยงวดไตรมาส 4/63 สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์ฯ) จะรายงานในวันจันทร์หน้า (15 ก.พ.64) ติดตามว่าจะออกมาดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดหดตัว -4% YoY และ 7.3% QoQ (Consensus คาด -5.7% YoY และ 3.8% YoY) หรือไม่ เพราะหากดูฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญ อาทิ ส่งออกงวดไตรมาส 4/63 หดตัวเพียง 2% YoY จาก -7.8% YoY ในงวดไตรมาส 3/63 หรือภาคการบริโภคบางตัวหดตัวน้อยลง อาทิ ยอดขายรถยนต์ไตรมาส 4/63 หดตัว -3.8% YoY จาก -30.4% YoY ในงวดไตรมาส 3/63 ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าหากออกมาดีกว่าที่คาดจะเป็นเซนติเมนต์บวกต่อตลาดหุ้นไทย สอดคล้องกับต่างประเทศ

โดยฝ่ายวิจัยได้ทำการศึกษาการตอบสนองของตลาดหุ้นประเทศต่างๆ ที่ประกาศจีดีพี(GDP) ออกมา และผลคือ ดีกว่าคาดหรือใกล้เคียงที่คาด พบว่าส่วนใหญ่ปรับขึ้น 0.5-1.3% หรือเฉลี่ยราว 0.9% ยกเว้น ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้ ตลาดหุ้นปรับลงแม้จีดีพีจะออกมาดีกว่าคาด เนื่องจากในวันที่ประกาศมีปัจจัยกดดันความกังวลกรณีหุ้น GameStop ในสหรัฐ

ส่วนคาดการณ์จีดีพีไทย ปี 2564 ช่วงต้นปีฝ่ายวิจัยได้ปรับลดคาดลงมาอยู่ที่ 2.5% YoY (เดิมคาด 4.1% YoY) เพื่อสะท้อนผลกระทบล็อกดาวน์ประเทศช่วงต้นปี โดยประเมินฟันเฟืองขับเคลื่อนปี 64 หลักๆ จะมาจาก 2 ส่วน

• การลงทุนภาครัฐ และการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ หลักๆ ในปีนี้เชื่อว่ารัฐบาลจะเร่งเดินหน้าโครงการลงทุนภาครัฐขนาดใหญ่ ฝ่ายวิจัยประเมินโครงการที่มีโอกาสเปิดประมูลและเป็นไปได้วงเงินรวม 4.58 แสนล้านบาท อาทิ โครงการรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม, เด่นชัย-เชียงของ รถไฟฟ้าสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี, รถไฟฟ้าสีม่วงเตาปูน-ราฎร์บูรณะ โดยหุ้นรับเหมาก่อสร้างที่ชื่นชอบ คือ STEC ราคาเป้าหมาย 18 บาท มีพื้นฐานแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาบริษัทรับเหมาใหญ่ ทั้งปริมาณงานในมือพร้อมโอน(Backlog) และโครงสร้างการเงิน

• ภาคส่งออก (ราว 70% ของจีดีพี) ทั้งปี 2564 คาด 3.5% YoY โดยมีปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะสหรัฐ (หนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ 1.9 ล้านล้านเหรียญฯ) รวมถึงจีน ปีนี้จีดีพีเติบโตมากที่สุดในเอเชีย เนื่องจากได้รับผลกระทบทั้ง 2 ประเทศเป็นคู่ค้าอันดับ 1-2 ของไทย ซึ่งดีต่อหุ้นส่งออก ยังแนะนำลงทุน CPF ราคาเป้าหมาย 42 บาท, TU ราคาเป้าหมาย 20 บาท, NER ราคาเป้าหมาย 6.2 บาท TFG ราคาเป้าหมาย 6.20 บาท

รวมถึงหุ้นที่อิงสินค้าโภคภัณฑ์ ที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว หุ้นพลังงาน ชอบทั้ง PTTEP ราคาเป้าหมาย 118 บาท และ PTT ราคาเป้าหมาย 48.50 บาท ซึ่งราคาหุ้น Laggard กับราคาน้ำมันดิบ ล่าสุดแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี และยังมีประเด็นหนุนจาก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก(OR) เข้าเทรดวันแรก(11 ก.พ.64)

ส่วน PTTEP ล่าสุดมีปัจจัยหนุนจากแจ้งผลสำเร็จการเจาะหลุมประเมินในโครงการซาราวักเอสเค 410 บี ประเทศมาเลเซีย โดย PTTEP ถือหุ้น 42.5% ถือเป็นแหล่งใหญ่สุดของ PTTEP คาดจะประกาศการตัดสินใจลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ภายในปี 2565 ถือเป็นอัพไซต์ที่มีนัยยะต่อ PTTEP ในระยะยาว

ส่วนสัปดาห์หน้า(15-19 ก.พ.) ประเด็นสำคัญส่วนใหญ่ตลอดทั้งอาทิตย์ รายงานจีดีพีงวดไตรมาส 4/63 อาทิ ญี่ปุ่นและยุโรป ส่วนใหญ่จะฟื้นตัวจากช่วงเดียวกันปรก่อนและไตรมาสก่อนหน้า, อัตราเงินเฟ้อ ส่วนไทยวันจันทร์ที่ 15 ก.พ. ให้น้ำหนักคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติมาตรการ “เรารักกัน” ให้เงิน 4 พันบาทต่อคน รวมกัน 9.2 ล้านคน สำหรับผู้ประกันตนที่อยู่ในมาตรา 33 ถือเป็นเซนติเมนต์บวกต่อดีต่อหุ้นค้าปลีกอย่าง CRC