UBE หุ้นไอพีโอน้องใหม่ เปิดซื้อขายวันแรก 2.28 บาท ราคาต่ำจอง 5%

“อุบล ไบโอ เอทานอล (UBE)” หุ้นพลังงานสาธารณูปโภค เปิดซื้อขายวันแรก 2.28 บาท ราคาต่ำจอง 5% ปรับตัวลดลง 0.12 บาท จากราคาไอพีโอที่ 2.40 บาท คาดนำเงินระดมทุนลุยขยายกำลังการผลิต-ทุนหมุนเวียน’ มูลค่า 2,736 ล้านบาท ระหว่างปี 64-67 กำหนดจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 30%

วันที่ 30 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศ ได้เริ่มซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (SET) วันนี้เป็นวันแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร หมวดพลังงานสาธารณูปโภค โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “UBE”

จำนวนหุ้นที่เสนอขาย 1,370 ล้านหุ้น คิดเป็น 35% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายครั้งนี้ มีมูลค่าเสนอขายรวม 3,288 ล้านบาท ราคาหุ้นสามัญที่เสนอขายดังกล่าวหลังไอพีโอคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E) เท่ากับ 69.97 เท่า และมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 30% ของกำไรสุทธิ

โดยมีราคาเปิดตลาดวันแรกอยู่ที่ 2.28 บาท ปรับตัวลดลง 0.12 บาท หรือคิดเป็นการปรับตัวลดลง 5% จากราคาเสนอขายครั้งแรก (IPO) ที่ราคา 2.40 บาทต่อหุ้น

นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE กล่าวว่า วัตุประสงค์ในการใช้เงิน แยกเป็น 1.เงินลงทุนในโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบันคือ 1.1.การเพิ่มกำลังการผลิตแป้งฟลาว 200 ตันต่อวัน (เป็น 300 ตันต่อวัน) จำนวนเงินมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2565 1.2.การลงทุนสร้างสายการผลิตสารให้ความหวานออร์แกนิก เช่น ไซรัป และมอลโทเดกซ์ทริน กำลังการผลิต 300 ตันต่อวัน จำนวนเงินมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี 2565-2566

1.3.การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแป้งมันสำปะหลัง โดยการลงทุนในเครื่องจักรใหม่ๆ  เช่น เครื่องโม่มันสำปะหลัง และเครื่องสลัดแป้ง จำนวนเงินมูลค่า 100 ล้านบาท ภายในปี 2565-2566 1.4.การลงทุนขยายกำลังการผลิตเอทานอลเกรดเชื้อเพลิง 40,000 ลิตรต่อวัน ผ่านการทำ De-bottlenecking Capacity จำนวนเงินมูลค่า 50 ล้านบาท ภายในปี 2566-2567 1.5.การลงทุนในโรงสีเชอร์รี่กาแฟและโรงคั่วกาแฟออร์แกนิก จำนวนเงินมูลค่า 100 ล้านบาท ภายในปี 2565

2.เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของแต่ละบริษัท ประกอบด้วย 1.บมจ.อุบลไบโอเอทานอล (ธุรกิจเอทานอล) 2.บมจ.อุบลซันฟลาวเวอร์ (ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง) 3.บมจ.อุบลไบโอเกษตร (ธุรกิจเกษตรอินทรีย์) จำนวนเงินมูลค่ารวม 1,886.8 ล้านบาท ภายในปี 2564-2566

เป้าหมายธุรกิจ UBE ในอีก 5 ปีข้างหน้า

  • ธุรกิจเอทานอล

ปัจจุบันผลิตและจำหน่ายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงและเกรดอุตสาหกรรมรายใหญ่ของประเทศ ด้วยกำลังการผลิต 400,000 ลิตรต่อวัน เป้าหมายมุ่งรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด ผ่านการรักษามาตรฐานการให้บริการ การสร้างความมั่นคงด้านวัตถุดิบและการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุน

  • ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง

เกรดอาหารและเกรดอุตสาหกรรม ทั้งแบบทั่วไปและออแกนิกภายใต้แบรนด์ “อุบลซันฟลาวเวอร์” และมีผลิตภัณฑ์จากแป้งฟลาวมันสำปะหลัง ภายใต้แบรนด์ “Tasuko” ซึ่งบริษัทถือเป็นผู้ผลิตและส่งออกแป้งมันสำปะหลังออแกนิกเพียงไม่กี่รายในโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานออแกนิกในระดับสากล เป้าหมายมุ่งเน้นการเติบโตแป้งมันสำปะหลังออแกนิก พร้อมสร้างสรรค์และต่อยอดผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังออร์แกนิกใหม่ออกสู่ตลาด

  • ธุรกิจเกษตรอินทรีย์

ปลูกพืชออแกนิก เช่น ข้าว กาแฟ เป้าหมายมุ่งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบทางการเกษตรประเภทต่างๆ ควบคู่กับการพัฒนาเครือข่ายเกษตรกรที่เข้มแข็ง ผ่านการส่งเสริมการเกษตรที่มีประสิทธิภาพ และวางเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านเกษตรอินทรีย์ และพร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพชั้นนำของโลก โดยจะดำเนินการควบคู่กับธุรกิจพลังงาน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) จากธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและธุรกิจเกษตรอินทรีย์ จากในปัจจุบันที่มีสัดส่วนรวมกันคิดเป็น 27% เป็น 70% ของกำไรจากการดำเนินงานทั้งหมด ขณะที่ EBIDA ของธุรกิจเอทานอลคาดว่จะลดลงจาก 73% ในปัจจุบัน เป็น 30% ตามลำดับ

โครงสร้างผู้ถือหุ้นหลังไอพีโอ

สัดส่วนรายได้จากการขายช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่ารวม 2,946.1 ล้านบาท ธุรกิจเอทานอล 1,370.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 46.5% ธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง 1,484.9 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 50.4% และผลิตภัณฑ์อื่น ประกอบด้วย รายได้จากการขายมันเส้นและการขายกระแสไฟฟ้า 90.7 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.1% (ดูตาราง)