CSV “แกร็บแท็กซี่” สร้างคุณค่าร่วมทั้ง Value Chain

ด้วยแนวคิด “แอนโทนี่ ตัน” และ “ฮุย ลิง ตัน” ที่ต้องการนำเอาอินเทอร์เน็ตมาใช้ในการแก้ปัญหาระบบขนส่งมวลชนของประเทศมาเลเซีย ที่ยังมีความไม่ปลอดภัย และด้อยประสิทธิภาพ จึงนำมาสู่การพัฒนาแอปพลิเคชั่น “แกร็บ (Grab)” เพื่อตอบโจทย์กับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

ทั้งยังไม่ใช่แต่ประเทศมาเลเซียเท่านั้น แต่ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม และไทย ต่างประสบกับปัญหาดุจเดียวกัน จึงทำให้แกร็บขยายการบริการไปยังประเทศต่าง ๆ เหล่านั้น

ซึ่งครอบคลุม 168 เมือง ใน 8 ประเทศอาเซียน โดยมียอดดาวน์โหลดจากผู้ใช้งานกว่า 77 ล้านครั้ง คิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นถึง 360% โดยเฉลี่ยต่อปี และมียอดการเดินทางผ่านแอปถึง 3.5 ล้านเที่ยวในแต่ละวันจึงทำให้แกร็บเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถใหญ่ที่สุด ให้บริการหลากหลายที่สุด ครอบคลุมทั้งรถแท็กซี่ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งตอบรับความต้องการของผู้โดยสารแบบรับส่งถึงที่หลากหลายรูปแบบ จนถือว่าได้รับความนิยมสูงสุดทั้งในหมู่ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน

สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของแกร็บ ที่จะขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปข้างหน้า (Drive South-East Asia Forward)

ไม่เพียงเท่านี้ แกร็บยังให้ความสำคัญ และยึดมั่นในแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ซึ่งไม่เพียงแต่จะมุ่งมั่นพัฒนาทั้งบริการต่าง ๆ ทั้งคุณภาพของบริการ ความปลอดภัยทั้งต่อผู้โดยสาร และสมาชิกผู้ขับขี่ แต่แกร็บยังยึดมั่นที่จะมอบสิ่งดี ๆ ในการช่วยยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ขับขี่ที่เป็นพาร์ตเนอร์ พร้อมกับการพัฒนาสังคมในประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ

สำหรับประเทศไทย แกร็บเข้ามาดำเนินธุรกิจในปลายปี 2013 โดยให้บริการ 4 ประเภท คือ แกร็บแท็กซี่, แกร็บคาร์, แกร็บไบค์ และแกร็บเอ็กซ์เพรส ครอบคลุมพื้นที่ความต้องการของผู้ใช้บริการในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ซึ่งช่วยให้ผู้โดยสารมั่นใจถึงการเดินทางที่ปลอดภัยแล้ว ขณะเดียวกัน แกร็บยังสามารถเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่ ที่ถือเป็นพาร์ตเนอร์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ พร้อมกับการสร้างประโยชน์ให้แก่สังคม ผ่านกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” กรรมการบริหาร บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่แกร็บเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย นอกจากการทำให้ผู้โดยสารสามารถเข้าถึงการบริการที่ปลอดภัย และสะดวกในหลากหลายการบริการ แกร็บยังเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุน และขับเคลื่อนนโยบายของประเทศในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจแบบดิจิทัล โดยเฉพาะการเพิ่มความสามารถในการใช้เทคโนโลยีของประชาชน ซึ่งเรามีส่วนเพิ่มการเข้าถึง และความสามารถการใช้สมาร์ทโฟนโดยอ้อมให้แก่ชุมชนระดับรากหญ้า ผ่านการสอนให้พาร์ตเนอร์ ผู้ขับขี่ และการเข้าถึงระบบการเงิน และบัญชีผ่านธนาคาร ซึ่งผู้ขับขี่จะมีต้องมีบัญชีธนาคารเมื่อเป็นพาร์ตเนอร์กับเรา

“ขณะเดียวกัน สิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจไม่ใช่เพียงแค่เพียงตัวธุรกิจเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะในยุคประเทศไทย 4.0 ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่เครื่องไม้เครื่องมือ หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้น แต่คนก็ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งแกร็บเป็นบริษัทแพลตฟอร์มที่ไม่มีรถเป็นของตัวเอง และไม่มีคนขับเป็นพนักงานประจำ จึงจำเป็นต้องสร้างชุมชน หรือเครือข่ายคนของคนขับรถขึ้นมา (driver community)”

“สิ่งที่เราต้องการเข้ามาดำเนินการในประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของไทยแลนด์ 4.0 คือ การเพิ่มประสิทธิภาพ ความเป็นมืออาชีพให้กับแท็กซี่ที่อยู่ในประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีแท็กซี่ที่อยู่กับเราหลายหมื่นคัน และหลังจากลงพื้นที่ เพื่อเข้าไปคลุกคลีกับพี่ ๆ คนขับบ่อย ๆ ทำให้เราเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งตัวเขาเอง และปัญหาการยอมรับสังคม ซึ่งสิ่งที่เราพยายามทำเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ คือการเป็นส่วนหนึ่งของคำตอบ ไม่ต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา”

“การลงพื้นที่แต่ละครั้งทำให้ผมเข้าใจว่าพี่ ๆ แท็กซี่เขาต้องการการยอมรับจากสังคมแบบไหน หรือต้องการฝึกอบรมอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ หรือความเข้าใจลูกค้าท่องเที่ยวทักษะการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งเรากับสภากาชาดไทยให้การอบรมเทคนิคการกู้ชีพเบื้องต้นให้แก่ผู้ขับขี่ด้วย ทั้งหมดนี้ถ้าหากเราทำให้ผู้ขับขี่มีความสุขได้ สิ่งที่จะตามมาคือผู้โดยสารจะมีความสุขเช่นกัน”

ผ่านมาแกร็บจัดทำแคมเปญเพิ่มรอยยิ้มให้พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่แกร็บแท็กซี่ (GrabTaxi Smiles Campaign) โดยจะมอบสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการรูปแบบใหม่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ขับรถ ภายใต้ 3 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการแท็กซี่มีสุข (Happy Taxi) โครงการแท็กซี่สานฝัน (Thank You Taxi) และโครงการแท็กซี่ประทับใจ (Taxi We Care)

โครงการแท็กซี่มีสุข จะทำให้พาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่สามารถการเบิกถอนเงินสดทันใช้ได้ทุกวัน ซึ่งเราเข้าใจดีว่ารายรับในแต่ละวันมีความสำคัญกับการดำเนินชีวิตของผู้ขับขี่แท็กซี่เป็นส่วนใหญ่ เราจึงมีการปรับเปลี่ยนระบบการเบิกจ่ายที่สามารถเบิกเงินค่าโดยสารที่ได้จากระบบแกร็บเพย์ (GrabPay) รวมถึงรายได้จากส่วนลดโปรโมชั่น ในการเข้าบัญชีได้ทุกชั่วโมง ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. และต่อไปเรามีแผนที่จะขยายช่วงเวลาเป็นตลอดทั้งวัน รายชั่วโมง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2561 นี้

สิ่งที่สำคัญอีกประการคือการมีประกันสุขภาพสำหรับผู้ขับขี่แท็กซี่ ซึ่งเราเสนอการประกันสุขภาพแก่พาร์ตเนอร์ที่ทำยอดได้สูงสุด 3,000 คน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 2560 ที่ผ่านมาอีกด้วย

“พิธา” กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการแท็กซี่สานฝันถือเป็นการตอบแทนพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ของแกร็บ ที่มีความทุ่มเท ทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลครอบครัว โดยผู้ขับขี่ของแกร็บแท็กซี่ที่ทำยอดค่าโดยสารสูงที่สุดจะได้รับรางวัลเป็นทริปท่องเที่ยวที่ประเทศสิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน และสามารถเลือกเดินทางกับคนที่เขารักได้อีก 1 คน

“ส่วนโครงการแท็กซี่ประทับใจ เรามุ่งหวังที่จะสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพคนขับแท็กซี่แก่ผู้ขับขี่แท็กซี่ทุกคน โดยจัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้ขับขี่ เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร อาทิ สติ๊กเกอร์แกร็บแท็กซี่ สไมล์ส, กิจกรรมโหวตคนขับแท็กซี่ในแอป และกิจกรรมแท็กซี่ใจหล่อ บอกต่อด้วย ที่ร่วมกับสถานีวิทยุ จส.100”

“ล่าสุดเรายังร่วมมือกับมูลนิธิป้องกันอุบัติภัยแห่งเอเชีย ในการมอบหมวกนิรภัยจำนวน 800 ใบ ให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง โรงเรียนวัดช่องนนทรี ในโครงการเดินทางปลอดภัย สวมหมวกนิรภัยมาโรงเรียน เพื่อลดจำนวนการบาดเจ็บและเสียชีวิตของเด็กจากอุบัติเหตุทางถนน พร้อมสนับสนุนการจัดอบรมด้านความปลอดภัยบนท้องถนนให้นักเรียน ครู และผู้ปกครอง”

“สิ่งที่เราทำ มุ่งตอบแทนความมุ่งมั่นในการทำงานของพาร์ตเนอร์ที่เป็นผู้ขับขี่ของแกร็บ ทั้งยังช่วยให้พวกเขามีเครื่องมือทำงานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสามารถเพิ่มรายได้ และเสริมสร้างความสุขในชีวิต สะท้อนกลับเป็นพลังให้พวกเขามอบการบริการที่ดียิ่งขึ้น และมอบความสุขแก่ผู้โดยสารต่อไป”

นับเป็นการนำเอาอินเทอร์เน็ตมาเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาในการเดินทาง ผ่านแพลตฟอร์มด้านการขนส่งแบบออนดีมานด์ ซึ่งเป็นการสร้างทางเลือกให้กับผู้โดยสาร รวมถึงการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตพาร์ตเนอร์ผู้ขับขี่ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับแนวคิด CSV (creating shared value) ที่เป็นการพัฒนาเชิงสังคม ด้วยการสร้างคุณค่าทางธุรกิจ ด้วยแนวคิดและรูปแบบทางธุรกิจ