“ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ” ปิดทองหลังพระ ฟังความชาวบ้านนราธิวาส แนะทำมาหากินด้วยศาสตร์พระราชา

สถาบันปิดทองหลังพระฯ จับมือผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส ถ่ายเท-รับฟังข้อมูลด้านเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาเป็นแนวทางแก้ปัญหาตามสภาพสังคมและภูมิศาสตร์ ด้วย “ศาสตร์พระราชา” เป็นต้นแบบการจัดทำแผนชุมชนตามแนวพระราชดำริ ให้ชาวบ้านพึ่งพาตัวเองได้ อย่างยั่งยืน

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชาคมคืนข้อมูลเศรษฐกิจ สังคมและจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านโคกยามู อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ที่จังหวัดนราธิวาสและภาคส่วนราชการได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระฯ บูรณาการการทำงานโดยน้อมนำองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ หรือ “ศาสตร์พระราชา” มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาตามสภาพสังคมและภูมิศาสตร์

“การจัดทำประชาคม แลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อให้เกิดการพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาได้จัดให้มีกิจกรรมเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างรายได้เสริมให้กับราษฎรในพื้นที่ เช่น กลุ่มเกษตรทฤษฎีใหม่แปลงใหญ่ พื้นที่ 66 ไร่ และกลุ่มวิสาหกิจหัตถกรรมกระจูด” ผู้ว่าฯ นราธิวาสกล่าว

โดยการจัดเวทีประชาคมคืนข้อมูลในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อคืนข้อมูลในด้านเศรษฐกิจ สังคมและข้อมูลทางกายภาพที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ทำการสำรวจรวบรวม เพื่อให้ชาวบ้านโคกยามู ได้ร่วมตรวจสอบและยืนยันความถูกต้อง พร้อมกระตุ้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ระดมความคิดและชูปัญหาที่แท้จริงของชุมชน เพื่อนำมารวบรวมและจัดทำแผนในการพัฒนาชุมชนต่อไป โดยมีสถาบันฯ ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ตามยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา”

ด้าน นายกูเซ็ง ลอเซ็ง ผู้ใหญ่บ้าน ม.7 บ้านโคกยามู เป็นตัวแทนในการรวบรวมและนำเสนอปัญหาและความต้องการของคนชุมชนต่อที่ประชุมใน 4 ประเด็น ประกอบด้วย ปัญหาดินและน้ำที่มีความเป็นกรด เป็นดินทราย ไม่อุ้มน้ำ และธาตุอาหารต่ำ ไม่เหมาะกับการเพาะปลูก การคัดแยกและแหล่งรวบรวมขยะที่ถูกสุขลักษณะเป็นรูปธรรม รวมถึงสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น ถนนและไฟฟ้า และตลาดในการรองรับผลิตทางการเกษตร

ทั้งนี้ นายเอกรัฐ หลีเส็น กล่าวหลังได้รับฟังปัญหาและความต้องการของชาวชุมชนว่า ที่ผ่านมีหน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาร่วมดำเนินการพัฒนาและทราบปัญหาความต้องการที่มีอยู่เดิมในพื้นที่ ปัญหาบางเรื่องอยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไข ขณะเดียวกัน การได้เข้ามาร่วมประชาคมรับฟังด้วยตนเองในวันนี้ทำให้ได้รับทราบปัญหาและความต้องการอื่นๆ จึงสั่งการให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการในการแก้ไขและบรรจุไว้ในแผนพัฒนาชุมชน

“ไม่อยากให้ทำคนเดียวหรือต่างคนต่างทำ อยากให้ทุกหน่วยงานร่วมบูรณาการ เพื่อให้เป็นแกนและเป็นแบบอย่างในการแก้ไขปัญหาอื่นๆ อีกต่อไป” นายเอกรัฐกล่าว