Netflix ประกาศลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งเป้า net zero ภายในปีหน้า

ที่มาภาพ: Oliver Scholey/Silverback/Netflix

Netflix ประกาศลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตั้งเป้าเป็นศูนย์ ภายในปีหน้า ผ่าน 3 ขั้นตอนคือ ลดการปล่อยมลพิษ รักษาแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีอยู่ และกำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ

ก้าวเข้าสู่ไตรมาสสองของปี 2021 หลายธุรกิจกลับมาเดินหน้าอีกครั้งหลังจากหยุดนิ่งเนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในปี 2020 แม้หลากหลายกิจกรรม อุตสาหกรรม หรือกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ต้องหยุดพักไปเกือบปี แต่มีหนึ่งสิ่งที่ไม่ได้หยุดนิ่งตามไปด้วย นั่นคือวิกฤติด้านสภาพภูมิอากาศของโลก

ถึงแม้วงการบันเทิงไม่ใช่อันดับแรก ๆ ที่คนนึกถึงเมื่อพูดถึงผลกระทบที่มีต่อสภาพแวดล้อม แต่ในฐานะผู้นำบริการสตรีมมิ่งความบันเทิงระดับโลก “เน็ตฟลิกซ์ (Netflix)” ตระหนักว่าการสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานความบันเทิงสู่หน้าจอนับล้านทั่วโลกนั้น ย่อมมีต้นทุนทางคาร์บอนเช่นกัน

เมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2021 เน็ตฟลิกซ์จึงได้ประกาศแผนที่จะลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เหลือศูนย์ภายในสิ้นปี 2022

“ดร.เอมม่า สจ๊วต” เจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนของเน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า เราต้องการสร้างความบันเทิงให้กับโลกใบนี้ แต่การจะสร้างความบันเทิงที่ประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องมีโลกที่ผู้คนอาศัยอยู่ได้ และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ต้องรักษาสภาพอากาศไว้ไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส เพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และรักษาระบบที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตให้อยู่ในสภาพดีเพื่อลูกหลานในอนาคต

ในปี 2020 ที่ผ่านมา เน็ตฟลิกซ์ได้ปล่อยคาร์บอนออกมาเป็นปริมาณ 1,100,000 เมตริกตัน โดยประมาณครึ่งหนึ่งมาจากการผลิตผลงานภาพยนตร์ และซีรีส์ที่เป็นแบรนด์เน็ตฟลิกซ์ ทั้งในส่วนที่เราบริหารจัดการโดยตรง (เช่น The Midnight Sky: สัญญาณสงัด) และที่ผ่านบริษัทผู้ผลิตภายนอก (เช่น โลกของเรา: Our Planet และ ผจญภัยสุดขั้วกับแบร์ กริลส์ : You vs. Wild) รวมทั้งเนื้อหาที่เป็นแบรนด์เน็ตฟลิกซ์ที่เราให้สิทธิ์ใช้งาน (เช่น บทเรียนจากปลาหมึก: My Octopus Teacher และ เที่ยวติดดินกับแซ็ค เอฟรอน: Down to Earth with Zac Efron)

ส่วนที่เหลือ 45% มาจากการดำเนินงานขององค์กร (เช่น อาคารสำนักงาน) และสินค้าที่จัดซื้อ (เช่น สินค้าที่จัดซื้อสำหรับการตลาด) นอกจากนี้ เรายังใช้บริการจากผู้ให้บริการระบบคลาวด์อย่าง Amazon Web Services และเครือข่ายนำส่งเนื้อหาอย่าง Open Connect เพื่อสตรีมบริการของเรา ซึ่งคิดเป็น 5% ของปริมาณมลพิษที่ปล่อยออกมา

“ถึงแม้จะเป็นสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น แต่เน็ตฟลิกซ์ก็คิดว่าการเปิดพื้นที่ให้นักเล่าเรื่องได้ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับโลก และการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาตินั้น ยังไม่เพียงพอ เราจึงพร้อมเดินหน้าเพื่อช่วยรักษาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น ผ่านทางแผนการลดปริมาณมลพิษให้เหลือศูนย์ + การอนุรักษ์ธรรมชาติ (Net Zero + Nature)”

“ดร.เอมม่า” อธิบายขั้นตอนการดำเนินงาน Net Zero + Nature ว่ามี 3 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นที่ 1: ลดการปล่อยมลพิษ

ลำดับแรก เริ่มต้นด้วยการลดปริมาณการปล่อยมลพิษภายในองค์กรให้สอดคล้องกับเป้าหมายที่ระบุไว้ในข้อตกลงปารีส (Paris Agreement) เพื่อจำกัดอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส และลดการปล่อยมลพิษในส่วนที่ 1  และ 2 (หรือมลพิษทางตรงและทางอ้อม) ลง 45% ภายในปี 2030 ตามแนวทางริเริ่มในการกำหนดเป้าหมายตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

ขั้นที่ 2: รักษาแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่มีอยู่

ภายในสิ้นปี 2021 ในกรณีที่มีการปล่อยมลพิษภายในองค์กรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งรวมถึงมลพิษในส่วนที่ 3 (หรือมลพิษทางอ้อมอื่น ๆ) ด้วย เน็ตฟลิกซ์จะทำการชดเชยด้วยการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่จะป้องกันไม่ให้มีการปล่อยคาร์บอนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ โดยเริ่มด้วยการอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติที่กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เช่น ป่าเขตร้อน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเป้าหมายในการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ขั้นที่ 3: กำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศ

ภายในสิ้นปี 2022 จะดำเนินการกำจัดการปล่อยมลพิษในส่วนที่เหลือทั้งหมดให้เป็นศูนย์ โดยดำเนินการลงทุนเพื่อฟื้นฟูระบบนิเวศทางธรรมชาติที่สำคัญ เพื่อมุ่งสู่สถานะการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ ผ่านทางโครงการต่าง ๆ เช่น การฟื้นฟูพื้นที่ทุ่งหญ้า ป่าชายเลน และคุณภาพดิน ที่นอกจากจะมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ แล้วยังช่วยจับและกักเก็บคาร์บอนด้วย

“นอกจากแผนงานต่าง ๆ ทั้งหมดนี้แล้ว เน็ตฟลิกซ์ยังมีความยินดีที่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างความรู้ความเข้าใจในด้านความยั่งยืน โดยในปี 2020 ผู้คนจาก 160 ล้านครัวเรือนทั่วโลกเลือกรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์อย่างน้อย 1 เรื่องทางเน็ตฟลิกซ์ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น โลกของเรา: Our Planet ซีรีส์สารคดีที่มีผู้ชมกว่า 100 ล้านครัวเรือน นับตั้งแต่การเปิดตัวในเดือนเมษายน 2019 ก่อนจะคว้ารางวัลมาได้จากหลายเวที รวมถึงรางวัลเอมมี่ไพรม์ไทม์ 2 รางวัล ด้วยเนื้อหาที่ให้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์และการพึ่งพากันและกันระหว่างระบบต่าง ๆ บนโลกและสิ่งมีชีวิตนานาชนิต หรืออีกหนึ่งผลงานเด่นอย่าง บทเรียนจากปลาหมึก: My Octopus Teacher ภาพยนตร์สารคดีที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ หลังจากคว้ารางวัลมาจากเวทีอื่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

“เดวิด แอทเทนเบอเรอห์” ผู้ให้เสียงบรรยายในสารคดี โลกของเรา: Our Planet กล่าวไว้ว่า คนต้องเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แทนการต่อต้านทำลาย

“แผน Net Zero + Nature นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญของเน็ตฟลิกซ์ในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงให้วงการบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นหน้ากล้องหรือหลังกล้อง ได้มีส่วนร่วมในการรักษาสภาพแวดล้อม ปกป้องความงดงามบนโลกของเราให้พร้อมเป็นเวทีถ่ายทอดเรื่องราวอันมหัศจรรย์ต่อไปในอนาคต”