ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังสหรัฐระบายน้ำมันจาก SPR เพิ่มเติม ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐสูงกว่าคาด
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลง หลังกระทรวงพลังงานสหรัฐประกาศแผนการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพิ่มอีก 26 ล้านบาร์เรลในช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. 66 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าปริมาณน้ำมันในคลังสำรองจะอยู่ที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1983
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 14 ก.พ. 2566 อยู่ที่ 79.06 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.08 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 85.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -1.03 เหรียญสหรัฐ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐ เดือน ม.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ระดับ 6.4% YOY สูงกว่าคาดที่ระดับ 6.2% ส่งผลให้ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายจากระดับปัจจุบันที่ 4.50-4.75% สู่ระดับ 5.25-5.50% ผ่านการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% ในการประชุม 3 ครั้งถัดไป
หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ก.พ. 66 ปรับเพิ่มขึ้น 10.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียและมาเลเซียมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงรอมฎอน ขณะที่ปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของเวียดนามในเดือน ม.ค. ปรับเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าราว 10.6%
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น จากการปิดซ่อมบำรุงประจำปีของโรงกลั่นในไต้หวันในช่วงต้นเดือน มี.ค.