จุรินทร์ ชวน เคดันเรน เอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นลงทุนในพื้นที่ EEC

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์

“จุรินทร์” ถก “เคดันเรน” เอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่น พร้อมจับมือเดินหน้าเพิ่มความร่วมมือเศรษฐกิจ ชวนลงทุนในไทยเพิ่ม ใช้ประโยชน์จาก FTA และ EEC

วันที่ 15 มีนาคม 2566 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายซูซูกิ โยชิฮิสะ และ ดร.ซูซูกิ จุน ประธานคณะกรรมการการค้าและเศรษฐกิจญี่ปุ่น-ไทย (Japan-Thailand Trade and Economic Committee) ภายใต้สมาพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่น (เคดันเรน) และคณะ เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ว่า เคดันเรน ได้นำคณะหารือกับตนในความร่วมมือเศรษฐกิจการค้าระหว่างไทย-ญี่ปุ่น เพื่อผลักดันการค้าระหว่างกันให้มากขึ้น

สำหรับประเด็นที่หารือ คือ ความร่วมมือทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี ทั้งภาครัฐและเอกชนของ 2 ฝ่าย โดยระดับทวิภาคี มีกรอบความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA) ซึ่งเป็นความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจะใช้ประโยชน์ในการลดภาษี เปิดตลาดการค้าบริการและการลงทุนระหว่างกัน ในระดับพหุภาคี ไทยกับญี่ปุ่น เป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)

ปัจจุบันเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และไทย-ญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าขับเคลื่อน RCEP ด้วยกันให้ได้รับประโยชน์ทางการค้าการลงทุนสูงสุด และมีกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) ซึ่งไทยกับญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนสำคัญ และยังมีเอเปกที่เป็นสมาชิกร่วมกัน

“ผมได้เชิญญี่ปุ่นมาลงทุนในไทย เพื่อใช้ประโยชน์จาก FTA ที่มีอยู่ และยังมี EEC (โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก) และเขตเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ญี่ปุ่นสามารถเลือกลงทุนในไทยได้ โดยสิทธิพิเศษ BOI (Board of Investment หรือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) จะเป็นกลไกหลักให้ความดูแลและสนับสนุน”

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมองว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญทางการผลิตและเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตให้กับญี่ปุ่นต่อไปในอนาคตนอกจากจีน ทั้งเรื่องอาหาร อุตสาหกรรมและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยญี่ปุ่นนำเข้าไก่จากไทยอันดับ 1 ปีละกว่าสามแสนตัน รวมทั้งวัตถุดิบชีวภาพเอาไปทำพลังงานในญี่ปุ่น เป็นต้น และจากนี้ ญี่ปุ่นจะมาประชุมกับ กกร.ของไทย (คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในความส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเอกชนไทยกับญี่ปุ่นต่อไป

โดยญี่ปุ่นมีความสำคัญอย่างยิ่งทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนกับไทย เพราะญี่ปุ่นมาลงทุนในอาเซียน 14,846 บริษัท มาลงทุนในไทยถึง 6,000 บริษัท ญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรามาก และไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับนักลงทุนญี่ปุ่น

โดยญี่ปุ่นถือเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย รองจากจีนกับสหรัฐ ปี 2565 มีมูลค่าการค้าร่วมกันถึง 2 ล้านล้านบาท และไทยส่งออกไปญี่ปุ่นปีที่แล้ว 8.55 แสนล้านบาท ญี่ปุ่นถือเป็นตลาดใหญ่ตลาดหนึ่งของไทย