หิ้วผลไม้เข้าประเทศไม่มีใบรับรองสุขอนามัยพืชปรับ 2 หมื่น-คุก 1 ปี

ผลไม้

กรมวิชาการเกษตรเตือน นักท่องเที่ยวเทศกาลหยุดยาวเลี่ยงซื้อผลไม้สด ย้ำนำเข้าประเทศต้องมีใบรับรองสุขอนามัยพืชจากต้นทาง ฝ่าฝืนระวังโทษปรับ 2 หมื่น-คุก 1 ปี

วันที่ 10 เมษายน 2566 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร  เปิดเผยว่า ทางกรมวิชาการเกษตรขอให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศทราบว่า การนำเข้าผลไม้สดเข้ามายังราชอาณาจักรไทย โดยไม่สำแดงใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านเข้าประเทศไทยในทุกช่องทาง เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติ กักพืช พ.ศ. 2507 และแก้ไขเพิ่มเติมมีโทษทั้งจำและปรับ

“ช่วงนี้เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศและชาวไทยที่เดินทางเข้าประเทศกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยงที่เดินทางกลับจาก เกาหลี ญี่ปุ่น ที่นิยมซื้อผลไม้สด เช่น พลับ องุ่น ที่มีราคาถูกกว่าเมืองไทยเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก จึงขอแจ้งเตือนให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับเข้าประเทศระวังในการกระทำดังกล่าวที่อาจจะเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้มีเจตนาที่จะกระทำผิด ”

ทั้งนี้ หากตรวจพบเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำและปรับ รวมถึงยึดสินค้าเพื่อนำไปทำลายตามกฎหมายกักพืช โดยกรมวิชาการเกษตรจะประสานกับทางการท่าอากาศยานให้ประชาสัมพันธ์เรื่องนี้ให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนรับทราบทั่วกัน

โดยกรณีฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามจะมีความผิดต้องระวางโทษตามมาตรา 21 จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันด่านตรวจพืชท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีการตรวจยึดผักและผลไม้สดที่นักท่องเที่ยวนำติตตัวเข้ามาที่อาคารโดยสารได้อย่างต่อเนื่อง

ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตักเตือนและปล่อยตัวแต่ยึดสิ่งของไว้ และได้แช่เย็นหลังจากตรวจสอบศัตรูพืชเบื้องต้น เพื่อรอส่งทำลายด้วยวิธีการเผาด้วยอุณหภูมิสูง เป็นการป้องกันความเสี่ยงศัตรูพืชเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมและระบบนิเวศของประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

พร้อมกับได้สั่งการสำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตรจัดเตรียมจุดทิ้งสิ่งต้องห้ามในบริเวณสนามบินให้ชัดเจนหลายจุด ให้นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย เพื่อที่นักท่องเทียวจะไม่ทำผิดกฎหมายโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์