สหรัฐลงทุนสูงเป็นอันดับ 3 ในอีอีซี “จุฬา” พร้อมเจรจาให้สิทธิประโยชน์เฉพาะรายลงทุนด้านการแพทย์

อีอีซี จับมือ องค์การการค้าและการพัฒนาของสหรัฐ (USTDA) และหอการค้าอเมริกัน (AMCHAM) ปลุกการลงทุนด้านการแพทย์และสุขภาพในไทย เผย 6 ปี สหรัฐลงทุนในพื้นที่อีอีซีสูงเป็นอันดับ 3 มูลค่ากว่า 44,000 ล้านบาท พร้อมให้สิทธิประโยชน์เฉพาะราย ดันไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

วันที่ 4 เมษายน 2567 นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวในงานสัมมนา U.S.-Thailand Healthcare Workshop : Collaborate on Advancing Healthcare Innovation in Thailand จัดโดย องค์การการค้าและการพัฒนาของสหรัฐ (USTDA) อีอีซี และหอการค้าอเมริกัน (AMCHAM) ว่า

ในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่อีอีซีสูงเป็นอันดับที่ 3 โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมในทุกอุตสาหกรรมสูงกว่า 44,000 ล้านบาท และมีบริษัทชั้นนำด้านการแพทย์และสุขภาพของสหรัฐที่ลงทุนในประเทศไทยและอีอีซี เช่น บริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ออร์กานอน และแบกซ์เตอร์

โดยอีอีซีได้เตรียมการให้สิทธิประโยชน์การลงทุนแบบจำเพาะกับกิจการ ที่สามารถยื่นขอกับอีอีซีได้โดยตรง พร้อมกับการขอใบอนุญาตต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการประกอบกิจการผ่านสำนักงานอีอีซีแบบ One-stop service เพื่อให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่าจะได้รับบริการการลงทุนที่มีความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับทุกการลงทุนในพื้นที่อีอีซี

และการสัมมนาในวันนี้ จะเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนด้านอุตสาหกรรมการแพทย์และมูลค่าสูงจากทั้งในและต่างประเทศ ถึงโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับการขยายธุรกิจมาสู่พื้นที่ใหม่ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และประเทศไทยมีความจริงจังและพร้อมให้การสนับสนุน เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการแพทย์และสุขภาพโดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวถึง ความสำคัญของสัมพันธไมตรีทางการฑูตระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยที่มีมายาวนาน ว่า กว่า 190 ปี สหรัฐได้ให้การสนับสนุนด้านการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประเทศไทย ผ่านโครงการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐต่าง ๆ นอกจากนั้น USTDA และ AMCHAM ยังได้สนับสนุนให้บริษัทชั้นนำด้านการแพทย์จากสหรัฐ ในการขยายตลาดและการลงทุนมาสู่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยเฉพาะประเทศไทย

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพมูลค่าสูง เป็นเป้าหมายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งไทยมีพื้นที่รองรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูง และความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศในด้านการแพทย์ ช่วยยกระดับระบบบริการการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ และขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยาและเครื่องมือแพทย์ของอาเซียน พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำศูนย์กลางทางการแพทย์ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก